ทีม Porsche Penske Motorsport โชว์ฟอร์มแกร่งในการแข่งขัน Daytona 24 ชั่วโมง
รถแข่งปอร์เช่ 963 จากทีม Porsche Penske Motorsport (หมายเลข 7) ผู้ขับขี่ Felipe Nasr (บราซิล), Matt Campbell (ออสเตรเลีย), Michael Christensen (เดนมาร์ก)
- รถแข่งปอร์เช่ 963 ติดอันดับ Top 5 ทั้ง 2 คันในช่วงควอเตอร์แรกของการแข่งขัน
- รถหมายเลข 7 เผชิญกับปัญหาระบบไฟฟ้าหลังออกสตาร์ทไป 5 ชั่วโมงแต่ 3 นักแข่งในรถหมายเลข 6 ยังคงขึ้นนำหัวขบวนที่ Daytona
- รถหมายเลข 6 ประสบอุบัติเหตุในช่วงเช้าของวันถัดมา
- ความผิดปกติของระบบเกียร์ส่งผลให้รถหมายเลข 6 ต้องออกจากการแข่งขันส่วนรถหมายเลข 7 ฝ่าฟันจนเข้าเส้นชัยในท้ายที่สุด
ถึงแม้ผลงานของทีมแข่ง Porsche Penske Motorsport ในสนามเปิดตัวจะยังไม่เป็นไปตามความคาดหวังแต่รถแข่งปอร์เช่ 963 ทั้ง 2 คันสามารถแสดงให้เห็นประสิทธิภาพของ race pace อันยอดเยี่ยมระหว่างการแข่งขันประเดิมฤดูกาลในรายการ Daytona 24 ชั่วโมงบนสนามระดับตำนานของกีฬาความเร็ว Daytona International Speedway
ทีมแข่ง Porsche Penske Motorsport เปิดตัวอย่างยิ่งใหญ่ด้วยการส่งรถแข่งปอร์เช่ 963 ลงกรำศึกในรุ่นการแข่งขันใหม่ถอดด้ามอย่าง GTP class รายการ Daytona 24 ชั่วโมง ซึ่งจัดขึ้นเป็นครั้งที่ 61 โดยรถแข่งหมายเลข 7 ภายใต้การขับขี่ของ Felipe Nasr (บราซิล), Matt Campbell (ออสเตรเลีย) และ Michael Christensen (เดนมาร์ก) สามารถคว้าอันดับที่ 7 มาครอง ส่วนรถแข่งอีกหนึ่งคันซึ่งมี Mathieu Jaminet (ฝรั่งเศส), Nick Tandy (สหราชอาณาจักร) และ Dane Cameron (สหรัฐอเมริกา) จำเป็นต้องออกจากการแข่งขัน เนื่องจากข้อบกพร่องทางเทคนิค
Jonathan Diuguid ผู้อำนวยการของทีม Porsche Penske Motorsport กล่าวว่า “มันเป็นอีกหนึ่งวันที่ยากลำบากสำหรับทีมงาน แต่สิ่งที่เราได้พบในวันนี้จะสร้างความแข็งแกร่งให้พวกเราในวันข้างหน้าผมมองไปถึงการแข่งขันครั้งต่อไป และเราจะนำเอาสิ่งที่ได้เรียนรู้ไปใช้ในสนามที่ Sebring”
สามสหายนักแข่งในรถปอร์เช่ 963 หมายเลข 6 พารถเข้าไปอยู่ใน 5 อันดับผู้นำ ตลอดครึ่งแรกของการแข่งขัน พวกเขาขับทำเวลาต่อรอบได้อย่างยอดเยี่ยม และพิสูจน์ให้เห็นว่าเป็นหนึ่งในรถแข่งที่มีศักยภาพเพียงพอต่อการคว้าชัยชนะมาครอบครอง
เหตุการณ์ไม่คาดคิด มักจะเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อในการแข่งขันระยะยาว 24-ชั่วโมง ขณะกำลังขับเคี่ยวเพื่อเอาตัวรอดให้พ้นจากช่วงกลางคืน ซึ่งถือเป็นหัวเลี้ยวหัวต่อของเกมส์การแข่งขัน Tandy เกิดอุบัติเหตุในเวลา 5:00 นาฬิกา ซึ่งส่งผลให้เกิดความเสียหายกับชิ้นส่วนด้านหน้า ปีกหลัง และใต้ท้องของรถแข่งปอร์เช่ 963 หลังจากขั้นตอนการซ่อมแซมที่ทำให้เสียเวลาไปเพียงสามรอบสนาม รถแข่งหมายเลข 6 กลับเข้าร่วมการแข่งขันต่อ และยังคงรักษาอันดับ top 5 ท่ามกลางคู่แข่งรายอื่นเอาไว้ได้ แต่สุดท้ายหลังจากกลับลงสนามได้เพียงหนึ่งรอบ ก่อนจบการแข่งขันเพียง 2 ชั่วโมง ความผิดปกติที่เกิดจากระบบเกียร์ทำให้รถหมายเลข 6 จำเป็นต้องออกจากการแข่งขัน
สำหรับรถแข่งปอร์เช่ 963 หมายเลข 7 ซึ่งพบกับความยุ่งยากมาก่อนหน้า และเกิดขึ้นหลายครั้งระหว่างช่วงแรกของการแข่งขัน นักขับรายแรกที่ต้องพบกับปัญหาคือ Felipe Nasr จนต้องนำรถกลับเข้าซ่อมแซม หลังจากนั้น 5 ชั่วโมง Michael Christensen ผู้ประจำการหลังพวงมาลัยขณะพบความผิดปกติกับระบบไฟฟ้า เหตุการณ์ดังกล่าวส่งผลให้ทั้งคู่ตามหลังอยู่ถึง 19 รอบสนาม นอกจากนี้ปัญหาอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับระบบกลไกก่อให้เกิดความล่าช้ากับรถแข่งหมายเลข 7 จนกระทั่งถูกทิ้งห่างจากตำแหน่งผู้นำไปถึง 34 รอบสนาม ตลอดระยะเวลาการแข่งขันทั้งสิ้น 24 ชั่วโมง
ความคิดเห็นจากนักขับหลังการแข่งขัน
Mathieu Jaminet (รถแข่งปอร์เช่ 963 หมายเลข 6): “มันเป็นค่ำคืนที่เต็มไปด้วยเรื่องราว นานทีเดียวกับการที่เราวิ่งขึ้นนำหน้า พยายามหลีกเลี่ยงปัญหาต่าง ๆ แต่ Nick หลุดออกจากสนาม และนั่นเป็นสาเหตุของความเสียหายบางส่วนต่อตัวรถ นับจากนั้นรถแข่งของเราสูญเสียสมรรถนะ มันคือความยากลำบากอย่างมากในการกลับเข้าพิททำให้เราช้าไปไม่กี่รอบ แต่เมื่อเราเปลี่ยนเป็นยาง soft รถแข่งของเราก็ได้พละกำลังกลับคืนมา”
Dane Cameron (รถแข่งปอร์เช่ 963 หมายเลข 6): “เราจบการแข่งขันครั้งแรกของรถแข่งปอร์เช่ 963 ด้วยผลงานที่ไม่คาดคิด เรายังคงมีบางสิ่งบางอย่างค้างคาอยู่ที่นี่เล็กน้อย แต่เราจะก้าวข้ามความผิดหวังจากตำแหน่งบนโพเดี้ยมเมื่อสิ้นสุดการแข่งขันในวันนี้ ทีมงานทุกคนต่างทุ่มเทแรงกายแรงใจต่อสู้ร่วมกันอย่างเต็มที่ เราผิดพลาดไปไม่กี่อย่างสำหรับการแข่งขันตลอดทั้ง 24 ชั่วโมง มันแย่มากที่เราต้องออกจากการแข่งขันจากปัญหาทางเทคนิค สิ่งแรกที่ต้องทำคือเดินหน้าต่อ ลืมเรื่องที่ผ่านมา และทำงานกับทีม ตัวรถ รวมทั้งโปรแกรมต่าง ๆ เราสามารถสร้างความสำเร็จได้นับจากจุดนี้ และเรารู้ดีถึง race pace อันยอดเยี่ยม เราจะกลับมาอย่างแข็งแกร่ง ด้วยรถแข่งทั้ง 4 คันของเราที่ Sebring”
Matt Campbell (รถแข่งปอร์เช่ 963 หมายเลข 7): “เราแข่งจนจบในท้ายที่สุด และนั่นคือความสำเร็จของภารกิจ นี่ไม่ใช่การแข่งขันที่ง่ายสำหรับเรา เราเสียเวลาไปเล็กน้อย แต่ยังคงสามารถซ่อมแซมรถแข่ง และทำให้มันวิ่งได้อย่างรวดเร็ว จนกระทั่งเข้าเส้นชัย มันน่าอายที่ไม่อาจยืนหยัดต่อสู้เพื่อชัยชนะจนจบ แต่ผมคิดว่าเราได้เรียนรู้หลายสิ่งหลายอย่าง และตอนนี้เราเข้าใจแล้วว่าอะไรคือสิ่งที่ต้องทำต่อไปนับจากนี้”
Michael Christensen (รถแข่งปอร์เช่ 963 หมายเลข 7) “การลงสนามครั้งแรกของรถแข่งปอร์เช่ 963 กลายเป็นเรื่องที่น่าเจ็บปวดเล็กน้อยเมื่อพิจารณาในมุมของผลงาน และตำแหน่งเมื่อจบการแข่งขัน แต่อย่างไรเราต้องเดินต่อ รวมทั้งขับเคี่ยวกับคู่แข่งที่เก่งกาจทุกราย เรามีปัญหามากมายอย่างคาดไม่ถึงคอยให้แก้ไข เราจะเรียนรู้ และพยายามทำให้ดีขึ้นหนทางข้างหน้ายังรอเราอยู่อีกยาวไกล”
