ถึงแม้จะชื่นชอบในรถคลาสสิกเพียงใด แต่ก็ต้องยอมรับว่ารถ PORSCHE Lightweight สมัยใหม่มันสะดวกสบาย และใช้งานในชีวิตจริงได้ดีกว่า PORSCHE รุ่นคลาสสิกและการเปลี่ยนโทนสีไปเพียงเล็กน้อยทําให้มันเป็นรถที่มีเอกลักษณ์เพียงหนึ่งเดียว
PORSCHE แปะป้าย RS ซึ่งเป็นชื่อย่อของ RennSport ให้กับ Carrera RS 2.7 ในปี 1973 ซึ่งเป็นรุ่นพิเศษที่ให้ความสําคัญกับการแข่งรถในสนาม ทําให้ PORSCHE สามารถทําการแข่งขันในรายการต่าง ๆ ได้ การใช้สูตรที่คล้ายกันนี้ปรากฏขึ้นอีกครั้งใน GT3 996 ในปี 2003 ด้วยประสิทธิภาพที่เพิ่มขึ้นจากการปรับปรุงเครื่องยนต์ การลดน้ําหนัก ช่วงล่างที่แข็งขึ้น และแอโร่ไดนามิกส์ที่ ดุดัน และในปี 2006 ก็ได้นําเสนอ 997 GT3 รุ่น RS
ในการเปิดตัว 997 GT3 RS เจนเนอเรชั่นที่สอง ในปี 2010 เป็นการเปิดตัวเครื่องยนต์ “Mezger Flat-6 ขนาดใหญ่ขึ้นเป็น 3.8 ลิตร พร้อมชิ้นส่วนภายในที่เบาลง ช่วยให้หมุนได้ถึง 8,500 รอบต่อนาที และให้กําลัง 450 แรงม้า เมื่อจับคู่กับเกียร์ธรรมดา 6-Speed ที่ยอดเยี่ยม GT3 RS สามารถทําความเร็ว 0-60 ไมล์ ต่อชั่วโมงได้ใน 3.9 วินาที และความเร็วสูงสุด 196 ไมล์ต่อชั่วโมง
ช่วงล่างแบบไดนามิกที่ปรับตามการเปลี่ยนแปลงของพื้นผิวถนนและสไตล์การขับขี่ทําให้ควบคุมได้เฉียบคมขึ้น ในขณะที่ฐานล้อกว้างขึ้นและตัวถังที่ปรับปรุงใหม่ช่วยเพิ่มการยึดเกาะ ปีกหลังที่ได้รับการปรับปรุงช่วยให้มีแรงกดและเสถียรภาพในการขับขี่ที่ดียิ่งขึ้น รวมถึงสิ่งเพิ่มเข้ามาในแพ็คเกจที่ทําให้ มันเข้าใกล้รถแข่งมาขึ้นคือล้อ Centerlock !
แล้วสําหรับคนที่รักและหลงใหลในรถคลาสสิก มาทั้งชีวิตอย่าง “Oou Vintage ทําไมเขาถึงหันมามอง รถโมเดิร์นที่เพิ่งผ่านรอบทศวรรษไปเพียงครั้งเดียว อย่าง 997.2 GT3 RS คันนี้ “จริงอยู่ว่า PDK 7-Speed ที่มีใน 911 คันอื่น ๆ จะเร็วกว่า สะดวกกว่า และมีประสิทธิภาพกว่าด้วยเทคโนโลยีสูงกว่ามาก แต่ชุดเกียร์ Manual นี้จะให้อารมณ์ของความคลาสสิกที่เป็นธรรมชาติ ตอบสนอง ได้อย่างตรงไปตรงมาได้ในทันที และต้องใช้ประสาทสัมผัสอย่างมากที่ต้องการควบคุมอื่น ๆ อย่างสมบูรณ์ แบบ ไม่เพียงแค่การเลี้ยว เบรก และยางเท่านั้น แต่ ยังรวมถึงตา หู สมอง และความกล้าหาญที่ทําให้เราไม่ลืม ว่าเราชอบรถเพราะอะไร…”
ด้วยน้ําหนักเพียง 1,370 กิโลกรัมของ RS ที่เบา กว่ารุ่น GT3 ถึง 25 กิโลกรัม และ RS ได้รับชุดเกียร์ ธรรมดา 6-Speed ที่ปรับอัตราทดให้ชิดขึ้น พวงมาลัย ไฮดรอลิกส์ ช่วงล่างไดนามิกและระบบ Active Suspension Management PORSCHE GT3 RS ตอบสนองผู้ขับขี่เท้าหนักทั้งหลายได้ตรงใจ ในขณะที่ยังมีทางเลือกของความสะดวกสบายในการขับขี่ให้ขึ้นอยู่กับสภาพแวดล้อม ไม่ว่าคุณจะอยู่บน ถนนหรือสนามแข่ง เป็นสิ่งที่ touch ใจนักขับอย่างเขา เป็นอย่างมาก แต่เจ้าของรถก็มีการปรับปรุงรูปลักษณ์ของมันเล็กน้อยเพื่อให้เข้ากับตัวเขาเอง
สภาพของตัวถังเดิมทั้งหมดนั้นยอดเยี่ยม ก่อนหน้านี้สี Carrera White ของมันอยู่ในสภาพดี มีเพียง รอยเศษหินเล็ก ๆ แปลก ๆ รอบกันชนหน้าส่วนล่าง เพราะรถของเขาเป็นรถที่เขาใช้ขับจริงเป็นประจํา และแม้จะมีการดูแลอย่างพิถีพิถันตรงจุดนี้มันก็เลี่ยงได้ยากสําหรับการใช้งาน แต่รถคันนี้ได้รับการห่อหุ้ม ด้วยสีแดง Blood Red ที่เป็นสีของ PORSCHE คลาสสิกจะช่วยดึงอารมณ์คลาสสิกของเขาขึ้นมาเพื่อเตือนตัวเองอยู่เสมอ
อย่างไรก็ตามการเปลี่ยนสีเป็นโทนที่ดูสุขุมแบบ คลาสสิก ใช่ว่าจะหุ้มไปบนบอดี้ที่เกลี้ยงเกลาเฉย แต่ลวดลายอันเป็นเอกลักษณ์ของ GT3RS ที่ด้านข้าง หรือซุ้มล้อหน้านั้นก็ยังคงอยู่ทุกประการ ด้วยสีทองแบบดั้งเดิมเข้ากันได้ดีกับล้ออัลลอยด์ GT3RS ขนาด 19 นิ้วแบบ Centerlock
997.2 GT3 RS คันนี้เป็นตัวอย่างที่โดดเด่น ของรถสมรรถนะสูงที่ได้รับการยกย่อง และมี คาแรกเตอร์เป็นของตัวเอง เป็นเรื่องยุติธรรมที่ จะบอกว่ารถรุ่น “Rennsport ทุกรุ่นในแคตตาล็อก ของ PORSCHE ล้วนเป็นที่ต้องการของนักสะสมและผู้ที่ชื่นชอบ แต่ 911 รุ่นพิเศษคันนี้เป็นตัวแทนของรุ่นที่เป็นที่ต้องการเป็นพิเศษ ที่สมดุลทั้งความสวยงามและความตื่นเต้นที่คุณคาดหวัง และเจ้าของเขายังคงออกไปสนุกกับมันอยู่บ่อยครั้ง
ในขณะที่หลายคนมักเก็บรถรุ่นพิเศษเหล่านี้ในโรงรถด้วยเลขไมล์ที่น้อยจนน่าประหลาดใจ ก่อนปล่อยเข้าสู่ตลาดนักสะสม แต่ถ้าคุณไม่ได้ขับมันจะมีประโยชน์อะไร? เหมือนการสะสมงานศิลปะที่ไม่สามารถทําไรกับมันได้มากไปกว่าการแขวนไว้บนกําแพงแล้วชื่นชมมัน แต่ทีมนักออกแบบของ PORSCHE คงโกรธที่งานศิลปะของเขาไม่ถูกใช้งานเลย
