พสุ ลิปตพัลลภ | ชายผู้หลงใหลในความเร็ว

นักธุรกิจหนุ่มไฟแรงผู้ที่รักในความเร็วและพร้อมเข้าสู่วงการแข่งรถอย่างจริงจัง คุณ “หลวง” พสุ ลิปตพัลลภ จากการที่ชอบไปขับรถ go kart เล่นกับเพื่อนตอนที่ทำงานอยู่ต่างประเทศ และรวมถึงเคยครอบครองรถยนต์ Porsche ทำให้เขาเกิดความหลงใหลในเรื่องของความเร็ว

หลังจากกลับมาประเทศไทย คุณหลวง ก็มีความคิดที่จะก้าวเข้าสู่วงการแข่งรถ โดยเริ่มต้นที่รายการสำหรับมือใหม่อย่าง Toyota one make race หลังจากหาประสบการณ์กับการแข่งมาได้ประมาณปีครึ่ง ก็ได้รับการทาบทามมาจากทีม AAS Motorsport เพื่อให้เข้าร่วมการแข่งขันในรายการ GT4 โดยคุณหลวงต้องใช้รถ Porsche Cayman GT4 Clubsport MR ซึ่งต่างจากรถที่เคยขับเป็นอย่างมาก จากเดิมที่เคยแข่งรายการ one make race ที่ใช้รถแข่งที่ต่างจากรถบ้านเพียงนิดเดียว

แต่พอมาเป็นเจ้า GT4 ซึ่งเป็นรถที่ออกแบบและตกแต่งมาใกล้เคียงกับรถแข่งมากที่สุด ความจุเครื่องยนต์ที่เคยแข่งจากเดิมแค่ 1,500 ซีซี. แต่พอมารายการใหม่กระโดดขึ้นมาเป็น 3,800 ซีซี. จึงทำให้วิธีการขับขี่ต้องปรับเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง แต่ด้วยความที่มีทีมเวิร์คที่ดี มีนักขับมือฉมังคอยให้คำปรึกษา จึงทำให้การปรับตัวเข้ากับรถทำได้ง่ายขึ้น

โดยผลงานในปีที่ผ่านมา 12 สนาม คุณหลวง สามารถขึ้นโพเดี่ยมรับรางวัลได้ถึง 10 สนามเลยทีเดียว สำหรับข้อมูลของ Cayman GT4 Clupsport MR คันนี้ ใช้เครื่องยนต์ 6 สูบ นอน ความจุ 3,800 ซีซี. กำลัง 385 แรงม้า แรงบิด 420 นิวตันเมตร ที่ 4,750-6,000 รอบต่อนาที

ระบบส่งกำลังใช้เกียร์ PDK 6 Speed คลัทช์คู่ ทำให้การส่งกำลังเป็นไปอย่างต่อเนื่อง โดยเกียร์ระบบนี้ มีขนาดเล็กกว่าและน้ำหนักเบากว่าเกียร์แบบเก่า ส่วนเบรกใช้แบเดียวกับรถแข่ง โดยเบรกหน้าเป็นแบบ 6 pot และเบรกหลังแบบ 4 pot มาพร้อมจานเบรกขนาด 380 มม. ซึ่งเป็นระบบเบรกที่ upgrade ขึ้นมาจากระบบเบรกเดิม แต่ก็ไม่ได้ถึงขั้นเปลี่ยนเป็นจานเบรกคาร์บอนเหมือนรถ supercar คันอื่น

ระบบขับเคลื่อนล้อหลังมีการปรับแต่งเฟืองท้ายให้เป็นแบบ Limited slip สำหรับรถแข่ง สามารถเรียกสมรรถนะได้ดียิ่งขึ้น ล้อ BBS ด้านหน้าขนาด 9 นิ้ว ด้านหลัง 10 นิ้ว ขอบ 18 ผลิตจากวัสดุอัลลอยขึ้นรูปแบบชิ้นเดียวที่ให้ทั้งความแข็งแรงและมีน้ำหนักเบา

พอพูดถึงคำว่าเบา การลดน้ำหนักของเจ้า GT4 MR สามารถลดน้ำหนักลงเหลือเพียงแค่ 1,290 กิโลกรัม แต่ก็ยังคงความแข็งแรงด้วยโครงสร้างที่ทำมาจาก Aluminum-steel กระจกบังลมหน้าเปลี่ยนเป็นแบบ Polycarbonate ชิ้นส่วนรอบ ๆ คันก็เปลี่ยนมาเป็น Carbon Fiber ไม่ว่าจะเป็นฝากระโปรงหน้า ประตู สปอยเลอร์หลัง ในส่วนอื่น ๆ ก็ใช้เป็นวัสดุลดน้ำหนักเช่นกัน อย่าง แบตเตอรี่ ซึ่งเป็นแบบ Lithium-ion ที่มีน้ำหนักเบา แต่มีประสิทธิภาพสูง

เบาะรถแข่งของ Recaro พวงมาลัยแบบรถแข่งที่สามารถควบคุมอุปกรณ์ต่าง ๆ ได้ ถังน้ำมันเปลี่ยนเป็นแบบที่มีความปลอดภัยสูงขึ้นเพื่อรถแข่งโดยเฉพาะ ความจุ 100 ลิตร ถึงแม้จะมีการปรับแต่งให้เหมือนรถแข่งที่ไม่ค่อยจะมีความสะดวกสบายเท่าไหร่ แต่ก็ยังคงมีอุปกรณ์อำนวยความสะดวกให้กับนักแข่งในระดับหนึ่ง ไม่ว่าจะเป็นระบบน้ำดื่มที่ต่อในหมวกให้นักแข่ง รวมไปถึงระบบปรับอากาศที่ทำให้นักแข่งรู้สึกเย็นสบายขณะแข่งอีกด้วย

ถึงแม้ตัวรถจะดีแค่ไหน สุดท้ายแล้วก็ต้องขึ้นอยู่กับคนทีควบคุมมัน คุณหลวง เผยว่าถึงแม้ปีนี้จะยังทำผลงานไม่ค่อยดีในช่วงต้น ๆ ฤดูกาล เนื่องด้วยรถที่ยังไม่คุ้นมือ เวลาซ้อมก็ยังไม่เพียงพอ แต่ด้วยความมุ่งมั่น ประสบการณ์ที่มี รวมถึงทีมงานและนักแข่งในทีมที่คอยให้คำแนะนำอยู่ตลอด จึงสามารถขึ้นโพเดี่ยมมาได้ถึง 10 ครั้ง

แต่สำหรับปีหน้า การแข่งขันอาจจะมีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้น อาจจะทำให้ต้องขยับไปแข่งในรุ่นที่สูงขึ้น แต่ก็ยังมีข้อดีก็คือการปรับแต่งรถก็สามารถทำได้มากขึ้น แล้วคู่แข่งเองก็มากขึ้นตามไปด้วย ผู้ควบคุณรถอย่างคุณหลวงก็คงต้องมีการบ้านที่จะต้องทำมากขึ้น โดยปีหน้าคุณหลวงเองก็พร้อมที่จะแบ่งเวลาไปให้กับการซ้อมมากขึ้น และหวังที่จะคว้าชัยขึ้นโพเดี่ยมให้มากขึ้นอีกด้วย

สำหรับแฟน ๆ Porsche ในปีหน้าอย่าลืมติดตามเชียร์และส่งกำลังใจให้กับ คุณพสุ ลิปตพัลลภ รถยนต์ Porsche GT4 หมายเลข 46 จากทีม AAS Motorsport By AAS Auto Service Co., Ltd.

_
บทความโดย กองบรรณาธิการ

นิตยสาร GTPORSCHE ฉบับที่ 43

Share

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *