ไชน่าทาวน์ เก๋ากว่าเดิม

วันหยุดยาวช่วงปีใหม่ ถือเป็น quality time ของผมที่ได้พักผ่อนอย่างจริงจัง หลังจากทำงานหนัก เดินทางไม่หยุดหย่อนตลอดปลายปีที่แล้ว ผมแทบไม่ได้พาเจ้าโอรีโอ้คันขาว หรือเจ้าคันเหลืองออกไปเที่ยวเล่นเหมือนช่วงก่อนๆเลย พอได้หยุดยาวในบรรยากาศถนนโล่งๆ อากาศดีพอให้ได้สัมผัสลมเย็นๆในช่วงเช้าตรู่ ผมไม่รอช้า ซิ่งเจ้าคันเหลืองไปเยาวราช เป็นเวลาที่ยังไม่มีผู้คนและรถราจอแจชวนปวดหัว ผมได้รับคำแนะนำกึ่งชักชวนจากรุ่นน้องช่างภาพหลายท่าน ให้ไปเตร็ดเตร่เดินถ่ายรูปแถวย่านไชน่าทาวน์ในยุค 4G นี้ดูบ้าง จะได้เปิดหูเปิดตากับคาเฟ่เก๋ชิคหลากสไตล์ Hostel ละลานตา นานาชาติเดินขวักไขว่ แต่ที่ดีต่อใจคงจะเป็นการได้ขับคันเหลืองออกไปสูดอากาศวันอาทิตย์ที่พระอาทิตย์ยังขึ้นไม่พ้นขอบฟ้าดี

ผมแวะมา breakfast ที่โรงแรม Baan 2459 ซึ่งเป็นของรุ่นน้องท่านหนึ่ง ตัวโรงแรมได้โครงบ้านเก่าสไตล์ชิโนโปรตุกีสอายุกว่าร้อยปีที่ยังหลงเหลืออยู่ในย่านนี้มาจับแปลงโฉมให้สมบูรณ์ใกล้เคียงบ้านเดิมมากที่สุดและมีเพียง 4 ห้องในบรรยากาศแตกต่างกัน ผมเลือกจอดรถด้านข้างเรือนต้อนรับที่เรียกว่า โซนศาลา เพื่อจะลงไปเก็บภาพสวยๆเห็นความมีเสน่ห์ของตัวบ้านด้านหน้า เสียดายไม่สามารถพาเจ้าคันเหลืองบุกเข้าไปถึงคาเฟ่ Chata Specialty Coffee ที่ซ่อนตัวอยู่ภายใต้เรือนกระจกซึ่งสร้างขึ้นมาเพื่อครอบกำแพงวัดสัมพันธวงศ์ได้

หลังจากกดชัตเตอร์รัวๆ จนมั่นใจว่าได้ภาพสวยๆมาบ้างแล้ว ผมเลยเข้าไปจิบกาแฟ พร้อมกับอาหารเช้าที่สั่งไว้ล่วงหน้ายกมาเสิร์ฟ ต้องบอกว่าที่นี่ข้าวต้มกุ้งอร่อยมากจริงๆครับ นั่งชิลเพลินจนเกือบลืมภารกิจพิชิตภาพสวย เยาวราช แต่เพราะยังเช้ามาก จึงได้เวลาพาเจ้าคันเหลืองออกตระเวนไชน่าทาวน์เก๋ากว่าเดิมที่ใครๆต่างกล่าวถึง

จากฉบับก่อนที่ผมยังเตร็ดเตร่ พาโอรีโอ้เที่ยวท่องล่องล้ออยู่แถวเยาวราชช่วงวันหยุดยาวต้นปีซึ่งเป็นช่วงเวลาแสนชิลอย่างหาได้ยากสำหรับผมในแต่ละปี พอออกจากโรงแรม Baan 2459 ผมขับวนแถวนั้นอีกรอบหนึ่ง ผ่านแยกเฉลิมบุรี วนไปจนเข้าซอยนานา ที่เป็นที่กล่าวถึงในโลกโซเชียลและของบล็อกเกอร์ทั้งชาวไทยและต่างชาติว่าพลาดไม่ได้สำหรับนักท่องเที่ยวที่มาไชน่าทาวน์ เพราะเพียงแค่ซอยนานาซอยเดียว ก็เป็นที่รวมของโฮสเทลสุดฮิป คาเฟ่ชื่อดัง คนต่อคิวยาวเหยียดตั้งแต่ร้านยังไม่เปิด ไปจนถึงบาร์เกร๋ๆ แสงไฟสวยสลัวชวนให้กดชัตเตอร์ยามค่ำคืน เรียกได้ว่า ซอยนี้กลายเป็นซอยที่ไม่หลับใหลอีกต่อไป

ผมจอดรถใกล้ๆบาร์ที่ชั้นสองเป็นโฮลเทลมีเพียงห้องพักเดียวโดดเด่น แล้วเดินละเลียดไปตามซอกซอย เข้าร้านนั้น ออกคาเฟ่นี้ เพื่อจะไปทะลุผ่านแยกเฉลิมบุรีอีกครั้ง ตรงขึ้นไปใจกลางเยาวราช ระหว่างเท้าก้าวเดิน ใจไพล่นึกถึงบรรยากาศเก่าๆสมัยยังเด็ก บ้านเก่าของผมอยู่ในซอยแถวโรงหนังเฉลิมเขตร์เก่า แม้ปัจจุบันจะถูกรื้อถอนไปแล้ว แต่ความทรงจำยังชัดเจน เวลาเกือบ 40 ปี แถวเยาวราชเปลี่ยนไปเรื่อยๆตามยุคสมัย แต่สิ่งที่ยังเหมือนเดิมก็คือ ย่านนี้ยังคงเป็นแหล่งของกินสุดฮิต ของอร่อยๆ สตรีทฟู้ดเรียงรายทอดยาวไปตามถนนเส้นหลักของย่าน แม้จะมีร้านรวงเก่าไปใหม่มา ชิคๆมากมาย แต่หากมองเข้าไปตามตรอกเล็กๆ ภาพที่คุ้นตาไม่เปลี่ยนและเป็นภาพที่มีเสน่ห์มากสำหรับคนรักการถ่ายภาพอย่างผมก็คือ อากง อาม่า ยังค้าขายของกินของใช้อย่างขยันขันแข็ง เสียงล้งเล้งโหวกเหวกก็ยังเหมือนเดิม เป็นภาพและเสียงที่ทำให้ผมยิ้มกับตัวเองออกมาอย่างไม่รู้ตัว แวะถ่ายภาพสตรีทให้พอสบายอารมณ์ก่อนจะเดินเรื่อยเปื่อยไม่รีบร้อน เข้าตรอกไปทะลุอีกด้าน เป็นฝั่งตรงข้ามวัดเล่งเน่ยยี่ หรือ วัดมังกรกมลาวาส ผมเลยได้โอกาสเข้าไปไหว้พระ ขอพร ทำบุญ ในจังหวะที่ผู้คนบางตาพอดี

หลังจากกลับมารับโอรีโอ้ ขับพากันขึ้นทางด่วนกลับบ้าน ผมคิดอะไรขึ้นมาได้จะวันปีใหม่ฝรั่ง ปีใหม่ไทย หรือปีใหม่จีน ก็ล้วนเป็นมงคลทั้งนั้น บางคนใช้โอกาสเหล่านี้ เป็นจุด start  เริ่มต้นสิ่งใหม่ๆ บางคนอยู่บนเส้นทางเดิมแต่เปลี่ยนวิธีคิด และบางคนอาจใช้เป็นความหวังใหม่ๆที่คาดไว้ให้ดีกว่าปีเก่าหรือดียิ่งๆขึ้นไป แต่ไม่ว่าจะปีไหนๆ ผมเห็นตรงกับคุณนิ้วกลมในหนังสือ ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นล้วนมีความหมาย ที่ว่า

ดีไม่ดี ก็ดีทั้งนั้น

สวัสดี สุขสันต์ ร่ำรวย วันตรุษจีนครับ


บทความโดย คุณจิม
Contributor นิตยสารจีทีปอร์เช่ ฉบับที่44

Share

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *