1967 PORSCHE 911R inspired

.

“แรงบันดาลใจจาก 911R Homologate Car Special Version For Rally ผ่านสมองและสองมือ ผ่องถ่าย DNA สู่ 911SC อย่างเต็มระบบทําให้เจ้า Hot Rod 911 คันนี้ โดดเด่นเหนือใคร”

.

ย้อนไปไม่ไกล ประมาณ 3 ปีก่อน “คุณโต้ง” ภมรกรณ์ เล็กปรีชากุล ได้เจ้า PORSCHE 911SC ปี 1978 สีดํา ซึ่งเป็น Base ดั้งเดิมของคันนี้มา ต้องการจะตกแต่งใหม่ให้มัน “เกิดอัตลักษณ์” สะท้อนความเป็นตัวตนของทั้งรถและตัวเขาเองจึงได้ศึกษาประวัติศาสตร์ PORSCHE Motorsport ก็พบกับ “911R” ปี 1967 ที่เป็นรุ่นพิเศษแบบตัวแข่ง (Homologation) ซึ่งถูกสร้างขึ้นมาเพื่อแข่งขันแรลลี่ ทําให้มันมีจํานวนเพียง 20 กว่าคันทั่วโลกเท่านั้น ซึ่ง 911R นี้ ยังเป็น Lightweight Car รุ่นแรกของ PORSCHE มันจึงเป็นการจุดประกายในการตกแต่งแบบ 911R ขึ้นมา

.

ย้อนความเดิม 911R เป็นผลงานการออกแบบของ Karl Baur วิศวกรและนักขับรถทดสอบชาวเยอรมันผู้โด่งดังแห่งยุค ที่ได้ออกแบบ 911R โดยใช้ชิ้นส่วนตัวถังเป็น “ไฟเบอร์กลาส” เพื่อให้น้ําหนักเบาเหลือประมาณ 800 กก. เท่านั้น ขุมพลัง Flat-6 ขนาดเพียง 2.0 ลิตร แต่ถูกโมดิฟาย ให้มีแรงม้าถึง 200-210 แรงม้า ซึ่งเป็นรถที่มีอัตราส่วนแรงม้าต่อน้ําหนัก หรือ Power to Weight Ratio ดีมากๆ ทําให้คว้าชัยชนะในสนาม 1969 Tour de France และ Tour of Corsica ได้สําเร็จ…

.

โปรเจกต์ PORSCHE 911R Backdate (เป็นการแต่งรถแบบ “ย้อนปี”) เริ่มต้นด้วยการส่งรถไปให้ “คุณชิน” แห่ง Luft 9 Autohaus RWB ลงมือทําใหม่แบบที่ไม่เหลือเค้า 911SC คันเดิมไว้เลย เหตุใด คุณโต้ง ถึงยอมทําขนาดนี้ “สําหรับ 911R ปี 1967 นี้ มีดีกรีแชมป์การแข่งขันรายการใหญ่ แสดงถึงสมรรถนะอันยอดเยี่ยมของมัน ก็เลยฝังใจและอยากจะทําขึ้นมาเป็นสไตล์ของเราเอง ถ้าเป็นคันที่ตรงรุ่นจริงๆ จะเป็นรถช่วงล้อสั้น (Short wheel base) ซึ่งด้านท้ายจะแคบกว่านี้หน่อย แต่ด้วยเราชอบทรงของมัน ไม่ได้กังวลว่าจะต้องเหมือน 100 เปอร์เซ็นต์ เพราะส่วนหนึ่งเราทําตามแบบที่เราชอบด้วย”

.

เรื่องการทําคงไม่ได้ง่ายอย่างที่คิด เพราะต้อง Customized ใหม่หมด คุณโต้งเล่าต่อถึง “ความยากเย็น” ในการทํารถ ต้องใช้เวลาถึง 3 ปีกว่า ถึงจะเสร็จ สีเป็น Beige Grey รหัส 622 จะออกเทาๆ ดินๆ หน่อย ดูแปลกตาไม่ซ้ำใครดี ซึ่งเป็นสีของ PORSCHE ในยุคปี 71-72 ส่วนงานตัวถัง อันนี้ยากสุด เนื่องจากจะต้องมีการเจาะช่องลม เจาะช่องยึดอุปกรณ์ต่างๆ สไตล์911R ที่ต้องวางและปรับตําแหน่งกันหลายครั้งจนได้จุดลงตัว อย่างกันชนก็ต้องเอาออกจึงได้เห็นทรวดทรงของรถจริงๆ ค่อยๆ ปรับไป มันเลยใช้เวลามาก

.

จุดเด่นของคันนี้ คือ ไฟเลี้ยว และไฟท้ายจะเปลี่ยนเป็นแบบ911Rที่เป็นไฟดวงกลมเล็ก ช่องรับลมด้านหลังที่เป็นเกล็ดถูกเปลี่ยนเป็นตะแกรงเหล็กสีดํา ส่วนฝากระโปรงก็จะเจาะให้เป็น “ที่เติมน้ํามัน” ด้วยเทคโนโลยีรถแข่งสมัยก่อนการเติมน้ํามันจะมัวมาเปิด-ปิดฝากระโปรง (หน้า) ก็จะเสียเวลาเปล่าๆ เลยทําเป็นแบบนี้เสียเลย

.

ภายในถูกปรุงแต่งให้เป็น Racing Look ที่คลาสสิกและร่วมสมัย แผงข้างประตูเป็นแผ่นเรียบ พวงมาลัยสามก้าน และด้ามเกียร์แบบควิกชิฟต์ ส่วนเครื่องยนต์ยังคงใช้ของ 911SC เดิม แบบ 3.0 ลิตร ที่มีการโมดิฟายแบบ Backdate เช่นเดียวกัน โดยการเปลี่ยนจากระบบหัวฉีด K-Jetronic หัวฉีดกลไก ใช้คาร์บูเรเตอร์คู่ของ PMO พร้อมแคมชาฟต์องศาสูงขึ้นสักหน่อย ปรับสภาพเครื่องให้สมบูรณ์ทําให้รถคันนี้ขับสนุกขึ้น เป็นผลงานของ ช่างเอ๋ Autohaus RWB

.

สิ่งที่ “คุณโต้ง” ภูมิใจอีกจุดหนึ่ง คือชุดท่อไอเสียที่ดูพิเศษ เป็นแบบของ 911R Rally Car เป็นท่อแยก 3 ปลายท่อที่ 2 ท่อใหญ่ด้านข้างจะถูกครอบปิดเอาไว้ในเวลาที่ยังไม่แข่งขันหรือการขับผ่านในเขตเมือง จะใช้เพียงท่อเดี่ยวอันกลางที่มีเสียงนุ่ม เงียบกว่า แต่เมื่อถึงการแข่งขันที่ต้องการกําลังสูงสุด ก็จะเปิดท่อออกให้โล่งทั้ง 3 ท่อ แต่จะเสียงดังมาก ไม่เหมาะสมกับการขับบนท้องถนนทั่วไป…

.

ส่วนช่วงล่าง จะเป็นอุปกรณ์ตกแต่งจาก ELEPHANT RACING ที่ยังคงเอกลักษณ์ของ “ทอร์ชั่นบาร์” เอาไว้มันให้ฟีลลิ่งที่ดิบๆ “สมวัยของมัน” เลยไม่เปลี่ยนเป็นคอยล์สปริง ส่วนระบบเบรก อัปเกรดเป็นรุ่นที่มีสมรรถนะสูงขึ้น อันไหนที่เป็นเรื่องของ Safety เราก็จะปรับตามไป โดยที่ไม่เสียเอกลักษณ์ความดั้งเดิม

.

บทสรุป คุณโต้งได้หลงใหลกับ PORSCHE Classic ไปเสียแล้ว “จริงอยู่ ที่มันไม่ได้แรง เร็ว ขับง่าย เหมือนรถยุคใหม่ ที่ต้องขับเร็วมากๆ ถึงจะสนุก แต่เจ้า PORSCHE Classic มันให้อารมณ์ “สื่อสารตรง” กับเรา ไม่ต้องเครื่องแรงหรือขับเร็วมาก มันก็ให้อารมณ์สนุกได้แล้วครับ และยิ่งกับรถที่เราออกแบบและสร้างให้เป็นแบบที่เราเป็น แค่ (หนีลูก) ไปขับนิดหน่อย นั่งชื่นชมมันในยามว่างและผ่อนคลาย มันทําให้ผมสุขใจมากครับ”

Share