.
“สําหรับคนที่เล่น PORSCHE มาจนถึงระดับหนึ่งก็จะต้องทํารถให้ออกมาเป็นแบบอย่างที่เขาอยากให้เป็น ซึ่งรถจะต้องสะท้อนตัวตนของเขาออกมาจริงๆ”
.
จากการสัมภาษณ์ “คุณจิ๊บ” ธนะวุฒิ ภิรมย์ภักดี ที่รักและชอบ PORSCHE ตั้งแต่รุ่นคุณพ่อ และได้ครอบครอง PORSCHE รุ่นพิเศษหลายรุ่น และ 964 รุ่นฉลองครบรอบ 30 ปี หรือ Jubilee ก็เป็นหนึ่งในนั้น แต่นั่นก็เป็นเพียงการเก็บรักษาแบบ Original ดั้งเดิมทุกชิ้น ด้วยเหตุนี้เอง เขาก็มีแนวคิดที่จะทํา PORSCHE ที่สะท้อนความเป็นตัวตนขึ้นมาอีกคันหนึ่ง และเป็นรถที่เขาอยากทําให้ออกมาแตกต่างจากคันอื่น
.
“คันนี้เป็น PORSCHE 964 Carrera4 US Spec ปี 1989 ที่ผมได้รับช่วงต่อมาจากคุณอู่ที่เป็นรุ่นน้อง คันนี้ประวัติดีมากๆ มือแรกเป็นของสิทธิ์ นักเรียนนอกจากเมืองบอสตัน ประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นรุ่นพี่ของคุณอู๋ ที่ผมอยากได้ 964 เพราะมันเป็นรุ่นตาตั้ง รุ่นสุดท้ายของ PORSCHE จริงๆ แล้วผมเคยมี 993 Turbo เมื่อ 20 กว่าปีก่อน แต่ดูแล้วตอนนี้ก็ยังไม่ใช่ เคยไปลองขับ 930 Turbo แต่ว่าขับยากไปหน่อย รู้สึกว่าไม่ใช่ตัวเองอีกเช่นกัน ผมต้องการรถ PORSCHE ที่ขับได้ทุกวัน ขับง่ายไม่ต้องมาคอยลุ้น เลยมาลงตัวที่ 964 คันนี่เอง แต่จะไม่ใช่เป็นเพียงแค่ 964 ที่กลับมาสภาพเดิม แต่ต้องเป็นรุ่น 964 ตามที่ผมจินตนาการเอาไว้แบบส่วนตัว”
.
“สิ่งที่ผมถูกใจในรถคันนี้ครั้งแรกคือสภาพรถ ดูเนี้ยบมาก และที่สําคัญเป็นรถพวงมาลัยซ้ายที่ผมอยากได้ ซึ่งออกจะตรงข้ามกับคนไทยทั่วไป เนื่องจากว่าคนที่ขับ PORSCHE รุ่นเก่าจริงๆ จะรู้ดีว่า ตําแหน่งการขับของรถพวงมาลัยซ้ายนั้นดีกว่ารถพวงมาลัยขวา โดยเฉพาะการนั่ง รถพวงมาลัยขวา ชุดแป้นเหยียบจะเยื้องซ้ายมากเพราะติดซุ้มล้อ ทําให้ตอนนั่งขับรู้สึกไม่ถูกสรีระสักเท่าไร อีกอย่างถ้าใครเคยดูตอนรื้อรถทั้งคันจะเห็นว่าพวกท่อทางต่างๆ ระบบท่อเดินน้ํามันอะไรพวกนี้จะอยู่ด้านขวาทั้งหมด ทําให้น้ําหนักสมดุลสู้รถพวงมาลัยซ้ายที่เป็น Original แท้ๆ ไม่ได้”
.
นี่เป็นเพียงจุดเริ่มต้นเท่านั้น คุณจิ๊บยังเล่าให้ฟังอย่างออกอรรถรสอีกว่า… “หลังจากที่ได้รถมาแล้ว ก็มานั่งคิดว่า เราจะทําอะไรกับมันดี กับการที่เป็นตัวตนของเรา มันต้องไม่เหมือนใคร อย่าง 964 Jubilee คันนั้น มันเป็นรุ่นพิเศษ ผมไม่สามารถไปแต่งอะไรได้เลย ต้องเก็บแบบ Original แน่นอนก็เลยต้องหารถคันใหม่มาทํา จริงๆ ผมก็อยากจะแต่งแนว Hot Rod หรือ Street Out Law แบบ Customized เต็มที่ไปเลยนะ แต่พอได้รถมาแล้ว ผมกับ Mr. Thomas ซึ่งเป็นช่างคู่กายของผมชาวเยอรมันก็ได้มาปรึกษากัน”
.
“พอผมได้ซื้อรถทั้งหมดทุกชิ้นจนเหลือแต่ Chassis โดยดูกับ Mr. Thomas ก็พบว่าคันนี้ไม่มีทั้งรอยชน สนิม ผุ เลย มันเป็นเรื่องที่โชคดีมากนะ กับรถอายุ 32 ปี ผมก็เลยตัดสินใจว่าไม่ตัดไม่แต่งไม่ดัดแปลงใดๆ ทั้งสิ้น แต่นี่กลายเป็นเรื่องยากมากๆ แล้วเราจะแต่งไปต่ออย่างไรล่ะ ??? คงไม่เก็บ Original เหมือน 964 Jubilee แน่ๆ โอเค!! ผมบอก Thomas ขอกลับบ้านคิดก่อนจนได้โจทย์ไปบอกว่า ผมต้องการคอนเซปต์ Modernization คือให้ลองคิดว่าหาก PORSCHE 964 เป็นรถใหม่ที่ผลิตในปี 2021 มันจะต้องเป็นเช่นไร? โดยมีข้อแม้ว่า ห้ามตัด ดัดแปลงใดๆ ที่ตัวรถโดยเด็ดขาด และยังต้องคงเอกลักษณ์ความเป็น Original ไว้อีกด้วย”
.
สิ่งที่ คุณจิ๊บ กําหนดมานี่ ไม่ใช่เรื่องง่ายแน่ๆ เพราะถ้าอยากจะแรงและสวยง่ายๆ ก็ส่งเข้า Garage ที่รับโมดิฟายไปเลยก็ได้ แต่เขาไม่อยากได้แบบนั้น “ผมกับ Mr. Thomas ตกลงกันว่า จะเปลี่ยนอะไหล่ใหม่ทั้งคัน และต้องเป็นของแท้ทุกชิ้น ลักษณะของ Mint Condition ซึ่ง Thomas ก็ถามว่าจะเปลี่ยนหมดทําไมบางอย่างก็ยังดีอยู่ แต่ผมต้องการรถใหม่ที่เหมือนกับออกจากโรงงาน PORSCHE ในปัจจุบัน ซึ่งเขาก็มี Connection ในด้านนี้เยอะมาก จึงสามารถเบิก อะไหล่ใหม่มาได้ตามที่ต้องการ ขนาดกระจกหลัง ผมยังเปลี่ยน เพราะบานเดิมมันไม่ใสเหมือนรถใหม่ ซึ่งเขาก็คิดว่าผมบ้าแน่ๆ!!! วันหนึ่งผมนั่งประชุมงานอยู่ใน Garage แล้วเขาก็กําลังถอดกระจกคันนี้ออกมาพอดี ปรากฏว่ามันแตก ผม เดินไปจับมือเขาเลย ขอบคุณมาก จะได้เปลี่ยนกระจกใหม่จริงๆ เสียที!!”
.
“ส่วนเรื่องของกระจกบานหลัง มันมาจากความต้องการของผม ที่จะต้องลดน้ําหนักด้านท้ายรถลงอีก เนื่องจากมันเป็นเครื่องท้าย ท้ายก็จะหนัก อยากให้มันสมดุลกว่านี้เลยเปลี่ยนกระจกบานหลังเป็น MAKROLON ซึ่ง Mr. Thomas ก็บังเอิญสั่งมาเป็นสีเขียว ซึ่งเป็นสีเดียวกับกระจกเดิมของรถ แถมกระจกบานหน้าเบิกใหม่มาก็ดันเป็นสีเขียวเหมือนกันอีก โชคดีมากๆ ฝากระโปรงหลัง ผมเปลี่ยนเป็นคาร์บอนไฟเบอร์ แต่ทําสีเดียวกับตัวรถ ซึ่งคันนี้ผมเปลี่ยนอุปกรณ์ลดน้ําหนักทั้งคันได้ถึง 90 กก. แต่มีปัญหาคือด้านหน้ามันเบาเกินไป ทําให้รู้สึกอันตราย เลยต้องใส่อุปกรณ์ด้านหน้ากลับเข้าไปอีก 40 กก. เท่ากับลดได้ 50 กก. ผมก็ว่า พอแล้ว”
.
“สีของตัวรถจะเป็นสี Crayon Grey ซึ่งสั่งสีของ Glasurit หรือสีนกแก้ว แห้งช้า ซึ่งเรื่องสี พี่ช้าง ณัฐพล เป็นผู้ช่วยเหลือ ตอนแรกผมก็พ่นตัวอย่างบนรถจริง เพื่อดูก่อนว่ามันเข้ากันไหม และก็เป็นที่พอใจ ส่วนต่อมาที่เป็นจุดเด่นของรถคันนี้ คือล้อสําหรับ 964 ส่วนใหญ่ที่เห็นกัน ก็จะใช้ล้ออยู่ไม่กี่แบบ เหมือนเป็น Pattern อย่างคันนี้ เดิมมาเป็นล้อ RUF ผมก็คิดว่ามันยังมีใช้อยู่ และบังเอิญ คุณอู๋ มี BBS สําหรับ 964 ที่เป็น Customized ที่มีเพียง 5 ชุด ได้มาจากอเมริกา ซึ่งออฟเซตมันพอดีมากๆ ผมก็เลยยืมมาลองใส่ขับดู ปรากฏว่าขับดี ถูกใจ ผมเลย เดินแผนต่อไป”
.
“อย่างที่บอกว่า ผมต้องการความดั้งเดิมแบบทันสมัย ก็เลยเล็งล้อ 964 ลาย D90 ที่รู้สึกว่ามันใช่สําหรับผมเลย ซึ่งมันมีแค่ขอบ 16 นิ้ว แต่ผมต้องการขอบ 18 นิ้ว จึงได้สั่งทาง Augment Wheel Company ซึ่งเป็นบริษัท Customized ล้อระดับชั้นนํา ผมจึงสั่งให้เขาทําล้อ D90 โดยมีออฟเซตและขนาดเท่ากับ BBS ของคุณอู๋ หลังจากนั้น จึงได้จัด Fitment ของตัวรถ ผมก็ได้คุยกับพี่หนู ชญานิน เทพาคํา และพี่เอ ที่มีความเชี่ยวชาญในด้านช่วงล่างของ PORSCHE 964 บอกว่า รุ่นนี้ถ้าโหลดมากไป ด้านหลังจะเกิดอาการ Bump Steer คือ เมื่อช่วงล่างเกิดการยุบ ล้อจะเลี้ยวเอง ทําให้ขับไม่นิ่ง ผมก็เลยทําตามคําแนะนํา คือเซตให้เท่ากับรถสแตนดาร์ดพี่หนู ส่วนโช้คอัพ ตอนนี้ผมสั่ง OHLINS DFV สําหรับ 964 ไปกําลังรอของอยู่ ส่วนเรื่องเบรกก็เป็นสิ่งที่ผมเลือกสรร อย่างมาก แน่นอนว่า BREMBO เป็นสิ่งที่คู่กับ PORSCHE ผมชอบเบรก ของรุ่น GT-S ที่เป็นสีดํา แต่เจอปัญหาว่ามีผลิตแต่คู่หน้า ผมก็เลยต้องหาบริษัทที่อเมริกาผลิตเบรกคู่หลังขึ้นมาให้ เลยจบเรื่องเบรกไป”
.
“ส่วนของภายใน ผมหุ้มหนังสีดําของรุ่น 991 GT3 โดยให้ช่างเยอรมันเย็บเป็นแบบสแตนดาร์ด จริงๆ เพราะผมว่าแผงข้าง RS มันเบาแต่ดิบไปหน่อย ไม่มีช่องใส่ของอะไรเลยรู้สึกมันเรียบไปส่วนเรื่องเครื่องเสียง ผมให้ทางคงเดชซาวด์ เจ้าเก่าแก่ย่านประดิพัทธ์ จัดการให้จุดที่สําคัญคือ การสร้างกรอบลําโพงที่ประตูใหม่จากคาร์บอนไฟเบอร์ ออกแบบทรงให้เข้ากับมือจับ ผมจึงสามารถเก็บของได้เหมือนรถในยุคนี้”
.
“ในด้านของเครื่องยนต์ ผมกําหนดเลยว่า ต้องขับใช้งานได้ทุกวัน โดยไม่มีปัญหาใดๆ ตอนแรก Mr. Thomas เสนอว่าขยายเป็น 3.8 ลิตร เลยไหม แต่ผมเลือก Original ที่ 3.6 ลิตร เท่านั้น แต่สามารถอัปเกรดอุปกรณ์ต่างๆ ได้ ให้แข็งแรงและน้ําหนักเบา เพื่อลดภาระ เลยเปลี่ยนแคมชาฟต์ ฟลายวีลน้ําหนักเบาและกรองอากาศใหม่ ผมเน้นให้ทนทานมากกว่า คันนี้ผมตั้งเป้าหมายไว้ที่ 290 PS ก็พอ จากเดิม 250 PS ผมมองว่าการจะทําแรงม้ามากๆ นั้นทําได้ไม่ยาก แต่ถ้ามันเกินไปจากตัวรถและความต้องการของเราจนรู้สึกว่ามันขับไม่สนุก ถ้าจะต้องระวังตอนขับตลอดเวลา รถคันนี้ ก็ไม่มีประโยชน์สําหรับผม”
.
“อีกจุดหนึ่งที่ถือว่าเป็นเทคนิคใหม่ให้ดูทันสมัยขึ้น ก็คือระบบท่อไอเสีย คันนี้สั่งทําเป็นแบบสปอร์ต ปลายออกท่อคู่ แต่ 964 คันนี้ เดิมเป็นเครื่อง N.A. ปลายท่อออกฝั่งเดียว ผมดูมันเหมือนคนคาบบุหรี่ ไม่สวยงาม ซึ่งก็เกี่ยวกับกันชนหลังเช่นกัน ของ 964 จะเป็นแบบ 3 ชิ้น ผม จะเอาของ 964 Turbo มาใส่ก็ไม่ได้ เพราะช่วงโป่งใหญ่กว่า ผมก็เลยต้องเบิกชิ้นข้างซ้ายมาใหม่ เพื่อทําเว้าให้ปลายท่อออกมาตามต้องการและสวยงามแบบที่ไม่ซ้ำใคร อีกประการ ผมได้ทําระบบวาล์วเปิด-ปิดที่ท่อไอเสีย สามารถลดเสียงเวลาขับขี่ในเมือง และเปิดเสียงเวลาขับขี่แบบสปอร์ต โดยปุ่มกดนั้น ผมก็เบิกของ 964 มาใส่ตรงช่องว่าง แต่พิเศษกว่าตรงที่บนปุ่มได้ Paint รูปท่อไอเสียเป็น Symbol ของ PORSCHE รุ่นใหม่”
.
นี่เป็นเพียงส่วนหนึ่งในเรื่องราวของการเนรมิตเจ้า PORSCHE 964 PDB ของ คุณจิ๊บที่มีรายละเอียดมากมายจริงๆ ดูเผินๆ อาจจะเรียบๆ แต่แน่น เต็มไปด้วยเรื่องราว ขนาดที่ยอมลงทุนเบิกอะไหล่ใหม่ทั้งคัน ก็เพื่อทําให้เหมือนว่ารถคันนี้ผลิตขึ้นสดใหม่ อย่างเช่นผมได้ไปยืมหนังแท้ของคุณหนูมา 4 ชิ้น มาใส่ไว้ในรถแล้วจอดตากแดดไว้ เพื่อที่เวลาเปิดประตูมาจะได้กลิ่นเหมือนรถคันใหม่อย่างสมจริง…
