993 BECOME WIDER : พลพจน์ วรรณภิญโญชีพ

แผนการดำเนินธุรกิจของอ้า ECU=SHOP’ ก็ไม่ต่างอะไรกับงานศิลปะบนล้อทั้งสี่ของ RWB ที่ต้องการเปลี่ยนแปลงแนวคิดให้ทุกคนยอมรับในผลิตภัณฑ์ที่พวกเขาคิดค้นขึ้นมาเพื่อแสดงถึงความสามารถและตัวตนที่ชัดเจน

ตั้งแต่จำความได้ ผมเนี่ยเป็นเด็กที่ชอบเรื่องรถยนต์มาก ในห้องนอนนี่มีแต่หนังสือรถ บนผนังก็มีแต่รูปรถเต็มไปหมด และจำได้เลยว่ามีครั้งหนึ่งอากงไปเมืองนอกแล้วซื้อรถบังคับมาฝากคันหนึ่ง แต่พอได้มาก็ยังไม่ได้เล่นเพราะในสมัยนั้นเนี่ยมันมีราคาแพงมาก ป๊ากับม๊าเขากลัวมันพังก็เลยจับใส่ตู้โชว์ไว้ ผมก็เห็นและจดจ้องมันอยู่อย่างนั้นทุกวันด้วยอารมณ์ที่เราอยากเล่นแต่ไม่ได้เล่นนึกออกใช่ไหมครับ และรถบังคับคันนั้นที่ผมเห็นมันอยู่ตลอดก็คือ PORSCHE 930 Turbo ซึ่งมันสวยมาก ภาพสรีระของรถที่มีสมญานามว่าเจ้าชายกบเนี่ยมันจึงติดอยู่ในหัวผมมาตลอดชายหนุ่มชาวเหนืออย่าง คุณอ้าพลพจน์ วรรณภิญโญชีพ CEO ผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของบริษัท ECU=SHOP  เริ่มย้อนอดีตให้เราฟังด้วยรอยยิ้มแบบสุขุม ถึงตอนที่เขาตกหลุมรักเรือนร่างของ PORSCHE ตั้งแต่ตอนยังเด็ก ก่อนเดินหน้าตามความฝันด้วยความทุ่มเทในการทำงานอย่างจริงจังจนปัจจุบันเป็นผู้ผลิตกล่องจูนนิ่งเครื่องยนต์ดีเซลเบอร์หนึ่งของเมืองไทยที่ดังไกลสู่ระดับโลก

หลังจากเรียนจบเริ่มแรกเลย เราก็เปิดบริษัทเพื่อรับซ่อมเครื่องจักรโดยเฉพาะ โดยงานหลักคือการซ่อมบรรดาบอร์ดคอนโทรลเลอร์ที่ใช้ควบคุมเครื่องจักรในโรงงานอุตสาหกรรมที่นิคมอุตสาหกรรมลำพูน ซึ่งเดิมทีในการเซอร์วิสเครื่องจักรเหล่านั้น บางครั้งลูกค้าก็ต้องส่งอุปกรณ์กลับไปยังบริษัทที่ต่างประเทศ ซึ่งก็ต้องรอกัน 6 เดือนถึงหนึ่งปีก็มี ซึ่งธุรกิจเขารอไม่ได้  ไลน์การผลิตเขาหยุดไม่ได้ ก็เลยเป็นช่องทางให้เราได้ศึกษาและทำการซ่อมแซมบอร์ดอิเล็กทรอนิกส์เหล่านั้นเอง เพื่อช่วยให้ธุรกิจของลูกค้าเราดำเนินต่อไปได้อย่างราบลื่น โดยได้ความช่วยเหลือจากคุณอาของผม ซึ่งท่านเป็นอาจารย์ที่สอนเกี่ยวกับวิศวกรรมไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์อยู่แล้วเขาเล่าถึงจุดเริ่มต้นของการเข้าสู่วงการโปรแกรมเมอร์ แล้วเป็นมาอย่างไรถึงมาเป็นเจ้าตลาดกล่องจูนนิ่งเครื่องยนต์ได้ ?

เราทำอยู่อย่างนั้นร่วม 3 ปี เริ่มเป็นที่รู้จักในวงการเครื่องจักรโรงงานแล้ว วันหนึ่งเราก็อยากมีสินค้าเป็นของตัวเอง เพราะถ้าเราซ่อมอย่างเดียวก็ไม่รู้ว่าบริษัทจะเติบโตยังไง ทีนี้ด้วยความที่เราชอบรถ ชอบแต่งรถอยู่แล้ว ก็จำได้ว่าสมัยเรียนอยู่ที่เอแบคเราเคยใช้ AUDI คันหนึ่งซึ่งมันก็เป็นรถที่ใช้งานดี แต่ติดปัญหาเกี่ยวกับกล่อง ECU ที่มันซ่อมไม่จบสักที จนสุดท้ายต้องขายไปด้วยราคาที่หายไปครึ่งหนึ่ง!  ซึ่งถ้าเป็นตอนนี้ที่เราซ่อมบอร์ดคอนโทรลได้แล้ว เรามั่นใจว่าต้องแก้ได้แน่ ก็เลยมองเห็นช่องทางที่จะผลิตสินค้าเกี่ยวกับรถยนต์ที่เราชอบอยู่แล้ว พอดีช่วงนั้นรถกระบะเครื่องยนต์ดีเซลในเมืองไทยก็มีเทคโนโลยีปั๊มไฟฟ้าเข้ามา เป็นช่วงคาบเกี่ยวระหว่างปั๊มสายกับปั๊มคอมมอนเรล  ซึ่งต้องใช้กล่องอิเล็กทรอนิกส์ควบคุม และที่ต่างประเทศก็มีกล่องโมดิฟายนี้ขายแต่มีราคาแพงมาก และสมัยนั้นก็ต้องรอของเป็นเวลานาน คราวนี้ก็คุยกับเพื่อนว่า เอาล่ะ! เราจะเริ่มเล่นกับเจ้านี่แหล่ะ ก็ลงทุนไปซื้อรถมาหนึ่งคันเพื่อวิจัยและพัฒนาอยู่ร่วมปีจนได้ต้นแบบกล่องโมดิฟายเพิ่มสมรรถนะเครื่องยนต์ ที่ทำงานได้อย่างสมบูรณ์ออกมา พอทำเสร็จปุ๊บ ปรากฏขายไม่ได้แม้แต่ชิ้นเดียว ก็เลยถอยทัพกลับมาซ่อมเครื่องจักรเหมือนเดิม แต่ในใจเราก็ยังคิดตลอดว่าถ้ามีโอกาสต้องเอาอีก เราต้องกลับมาทำอีก เรามาครึ่งทางแล้ว เรามีสินค้าเป็นของตัวเองแล้ว แต่เราแค่ขายไม่ได้””

หลังจากคุณอ้าพับโปรเจ็กต์ที่ตอนนั้นมาแบบโนเนม ร้านค้า อู่ซ่อม ทั้งหลาย จึงไม่ได้ให้ความเชื่อมั่นกับกล่องจูนแบรนด์ไทยที่ยังไม่มีชื่อเสียง ก็เหมือนฟ้าเริ่มสดใสขึ้นอีกครั้งเมื่อหลังจากนั้นไม่นานมีทีมแข่งรถจากกรุงเทพฯ ขึ้นไปแข่งรถที่เชียงใหม่และได้ทราบว่าเขามีทีเด็ดอยู่ในมือ และนี่ทำให้ความหวังในสินค้าที่เขาตั้งใจผลิตมันมานั้นลุกโชนขึ้นอีกครั้ง

มีทีมแข่งรถเขาอยากให้เราผลิตกล่องจูนนิ่งเครื่องยนต์ให้เขา โดยเขาจะขายภายใต้แบรนด์ของเขาเอง ตอนนั้นเรามีทุนไม่มากก็ผลิตให้เขาไปทีละล๊อต ซึ่งมันก็ทำงานได้อย่างดีเต็มประสิทธิภาพ และเพียงเขาบอกกับลูกค้าว่ามันคือกล่องนำเข้าจากญี่ปุ่นปรากฏว่ากล่องมันขายได้ และขายได้ดีด้วย ซึ่งทั้งๆ ที่มันผลิตในไทย มันคลอดออกมาจากโรงงานที่เชียงใหม่นี่เอง มันเป็นแผลของเรา คือด้วยความที่เราอยู่ในวงการอิเล็กทรอนิกส์วงการโปรแกรมเมอร์ เราโดนตราหน้ามาตลอดตั้งแต่วันแรกที่ทำงานว่า โปรแกรมเมอร์ไทยไม่เก่ง สินค้าอิเล็กทรอนิกส์ไทยไม่มีทางเลยที่คนไทยจะสร้างได้ดี ซึ่งผมไม่เชื่อ ผมไม่เคยเชื่อเลย เพราะเรารู้อยู่เต็มอกว่าจริง แล้วมันไม่ใช่ ตอนนั้นเราก็ตั้งใจว่าเราอยากพิสูจน์ให้เห็นว่าความสามารถของคนไทยไม่ได้แพ้ใครเลย ก็เลยกัดฟันและตั้งใจแล้วว่ารอบนี้ยังไงก็ไม่ถอยแล้ว ก็รวบรวมทุนทั้งหมดเปลี่ยนตัวเองจากที่ตั้งรับ นั่งรออยู่ที่โรงงาน เคยเข้าแต่อู่ที่เราเคยรู้จักที่มีคนแนะนำ ก็เปลี่ยนใหม่ คราวนี้ไปตามใจฉันเลย เจออู่ที่ไหน แวะทุกที่ ตระเวนไปทุกแห่ง กับเอกสารเป็นตั้งๆ แผ่นซีดี Presentation พร้อมสินค้าที่อยู่หลังรถ ถ้าใครอยากลองก็มีให้ลอง ถ้าไม่ชอบก็ถอดออกได้ ปีนึงมี 365 วัน เราทำอย่างนี้ทุกวันอยู่ 3 ปี ผมวิ่งเข้าออกอู่ทุกอู่ ตั้งแต่เหนือจรดใต้ เรียกว่าไปทุกที่ที่มีอู่ผมต้องสร้างความมั่นใจให้กับสินค้าแบรนด์ไทยให้ได้

อย่างหนึ่งคือเราต้องเชื่อก่อนว่าคนไทยทำได้ ตลอด 17 ปีที่ผ่านมาของ ECU=SHOP ผมเชื่อมาตลอดว่าทีมผมเก่งที่สุด ไม่ว่าจะเกิดปัญหาอะไรขึ้น ทีมเราจะต้องแก้ได้ อันนี้คือเรื่องความเชื่อของเราก่อน และเราต้องมั่นใจในสินค้าเรา ซึ่งความเชื่อตรงนี้มันบอกกันไม่ได้ แต่มันสร้างให้เห็นได้ด้วยการกระทำ ที่สำคัญเราต้องรับผิดชอบคำพูดตัวเอง อย่างผมบอกกับลูกค้าว่าเรารับประกันแบบนี้ ถ้ากล่องมีปัญหาอะไรก็ตาม พี่บอกผม ในหนึ่งวันผมจะมาหาพี่ นี่เป็นคำพูดที่เราต้องทำให้ได้ นี่ก็เป็นเรื่องหนึ่งที่ผมรู้สึกว่าเราสามารถทำได้ดีกว่าสินค้าจากต่างประเทศชายหนุ่มมาดเนี้ยบเล่าให้ฟังถึงจุดเริ่มต้นของการเดินหน้าธุรกิจแนวรุกด้วยท่าทีที่สุขุม เรียบง่าย และเป็นกันเอง เรามองเห็นถึงแววตาที่ส่อให้เห็นความมุ่งมั่น ซึ่งไม่ต้องบอกก็รู้ว่าครั้งนี้เขาตั้งความหวังไว้มากน้อยเพียงใด การที่กล่องล๊อตแรกขายไม่ได้นั้น เขากลับไม่ได้มองเป็นความล้มเหลวแต่อย่างใด กลับเป็นแรงกระตุ้นให้เขาต้องสร้างความเชื่อมั่นให้สินค้าไทย ให้เชื่อมั่นในฝีมือคนไทย และในวันนี้เขาก็พากล่องจูนนิ่งสัญชาติไทยภายใต้แบรนด์ ECU=SHOP ทะยานสู่ความสำเร็จ สร้างความน่าเชื่อถือไม่ใช่เพียงแค่คนไทยเท่านั้นแต่มันคือระดับสากลในอีก 33 ประเทศทั่วโลก โดยหลัก ก็จะเป็น ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ ด้วยกล่องที่เมดอินไทยแลนด์ร้อยเปอร์เซ็นต์

หลังตั้งหลักในธุรกิจจนเรียกได้ว่าประสบความสำเร็จแล้ว ก็ถึงเวลาที่คุณอ้าจะเดินหน้าตามหนึ่งในความฝันของเขา นั่นก็หนีไม่พ้นเรื่องของรถยนต์ซึ่งการเลือกรถในคอลเลกชั่นของเขาก็ยังคงมีจุดยืนที่ชัดเจน ไม่ได้เปลี่ยนไปตามกระแสแฟชั่นการเลือกรถของผมจะไม่อิงกระแส รถบางรุ่นมันอาจเป็นรถนอกกระแสแต่ถ้าเราเห็นแล้วชอบ เราก็เอา เรียกว่าเอาตัวเองเป็นหลัก บางคนเล่นเพราะมีเพื่อนเล่นด้วยกัน พอเพื่อนเลิกเล่นก็หมดกำลังใจ แต่ถ้าเราเล่นเพราะเราชอบ เราก็จะอยู่กับเขาได้นาน อย่าง PORSCHE เนี่ยผมชอบเพราะรูปทรงที่ไม่เหมือนใคร ผมรู้สึกว่ารูปทรงเขาดูไม่เบื่อ มีรถหลายคันที่เข้ามาแล้วก็ขายไปด้วยเหตุผลที่ขับไม่สบายบ้าง เสียงดังบ้าง หรือด้วยอะไรก็แล้วแต่ แต่พอเป็น PORSCHE ผมจะไม่สนใจเรื่องพวกนี้เลย เพราะเราชอบในรูปทรงของมันอยู่แล้ว

สัมผัสได้ว่าความมุ่งมั่นในการสร้างตัวตนที่ชัดเจนของเขา มีผลต่อรถที่เขาเลือกว่าต้องเป็นรถที่มีคาแร็คเตอร์ชัดเจนและมีความเป็นอกลักษณ์ที่ไม่เหมือนใคร ไม่เว้นแม้กับการต่อยอดทางความคิดให้กับรถ PORSCHE ที่เขารักและหลงใหลให้แตกต่างและโดเด่น แต่ด้วยความที่พอเป็น PORSCHE เนี่ย ความนิยมในแบรนด์ทำให้ไม่ค่อยมีใครกล้าไปแตะต้องกับความงามบนเรือนร่างของ PORSCHE เท่าไหร่นัก แต่ไม่ใช่กับ Akira Nakai เจ้าสำนัก RWB หรือ RAUH-Welt Begriff ที่ภาษาเยอรมันแปลความหมายแบบตรงตัวไปในเชิงแนวคิดของโลกแบบดิบๆ อะไรทำนองนั้น ที่เขาวาดฝันในการทำชุดแต่งสไตล์ญี่ปุ่นให้เข้ากับ PORSCHE 911 ที่เขาคลั่งไคล้ โดย RWB จะมีแนวทางของชุดแต่งที่เป็นตัวเอง และมีสาวก PORSCHE สาย Out Law ทั้งหลายวางใจเอารถสุดรักสุดหวงมาให้ Nakai แปลงโฉมเพื่อต้องการเอกลักษณ์ที่เด่นชัดและแตกต่างไปในแต่ละบุคคล และคุณอ้าก็เป็นหนึ่งในคนที่หลงใหลในการเสพงานศิลป์บนรถเจ๋ง นี้ เขาเริ่มค้นคว้าและหาข้อมูล ถึงสิ่งที่ทำให้เขาสนใจ PORSCHE คลาสสิกตอนเห็นรถ RWB ครั้งแรก ถึงกับต้องอุทานว่านี่มันรถอะไรวะเนี่ย มันเป็น PORSCHE ที่เราชอบเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว แต่มันมีโป่งล้อกว้าง ซุ้มล้อหลังขนาดมหึมา แถมยังเตี้ยติดพื้น มันดูดุดันมาก ตอนนั้นไม่มีข้อมูลอะไรเลย ก็เลยเริ่มศึกษา ดูคลิปวีดีโอทุกวันจนที่บ้านเริ่มสงสัยว่าดูอะไรนักหนา จนทราบว่าการทำ RWB เนี่ยต้องเป็นการทำแบบ Custom ต้องจองคิวในการทำ ก็เลยถอดใจไปเพราะมันดูยากสำหรับเราที่ทำแต่งานจนไม่ค่อยมีเวลา จนวันหนึ่งเมืองไทยก็มีคนทำรถ RWB ขึ้นมาและเราก็ได้ไปดูการทำงานของ Nakai ที่ตอนนั้นมาทำรถ RWB โชว์ในงาน Dastreffen มันเหมือนความเป็นจริงเริ่มใกล้เข้ามาแล้ว ก็เลยคุยกะเพื่อนแถวบ้านที่เขาเล่น PORSCHE อยู่แล้ว ก็ปรากฏว่ามี 993 RWB คันหนึ่งที่ทำเสร็จแล้ว กำลังจะขายแต่ก็ยังลังเลใจอยู่เพราะเจ้าของเขาก็เป็นคนรักรถมากคนหนึ่ง ก็เลยไปสร้างสัญญาใจกับเขาไว้ว่าถ้าเขาอยากขายขอให้บอกเรานะ จนกระทั่ง 2-3 ปีก่อน เขาก็ตัดสินใจปล่อยรถคันนี้มาให้ผม วันแรกที่ได้มา โอ้โห..เห่อมาก รถคันนี้ถึงมันจะดูเตี้ย แต่มันยังขับใช้งานได้ ที่ชอบมากคือมันแตกต่างจากรถคันอื่นๆ มันเป็นรถที่ตอบสนองในเรื่องของอารมณ์ได้อย่างชัดเจน มันมีฟีลลิ่งแบบดิบ ที่เราจะหาไม่ได้จากคันอื่นเขากำลังนิยามถึง 993 สีดำเงาฉ่ำ ที่มีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่เกิดขึ้นกับงานตัวถัง โป่งซุ้มล้อขนาดยักษ์เข้ากันได้อย่างสมบูรณ์กับสปอยเลอร์หลังขนาดสองคนโอบ เป็นผลงานชิ้นโบแดงที่ควรค่าแก่การเป็นสุดยอดในยุคของมัน และยังเป็นรถที่ดึงดูดสายตาให้คนส่วนใหญ่มักตื่นเต้นเมื่อได้เห็นรถคันนี้ จนต้องหันมองกันจนคอเคล็ด

รถเยอรมันเนี่ยเป็นรถที่ขับสนุกนะ ขับมันส์มากกว่าพวกรถอิตาลีบางคันที่รูปทรงสวยแต่ผมก็ไม่ชอบขับ ผมชอบยืนดูมันมากกว่า แต่ทุกครั้งที่เราอยู่หลังพวงมาลัยคันนี้เราจะรู้สึกได้ถึงความสัมพันธ์กับรถมากกว่า อย่าง PORSCHE รุ่นใหม่ ก็สวยนะ มันมี DNA ของมัน แต่มันยังขาดอารมณ์บางอย่าง ซึ่งก็ต้องยอมรับว่าจริง มันเป็นรถที่ขับดีมาก อย่าง Panamera กับ Macan ที่ผมเอาไว้ใช้งานมันก็ไม่ได้ติดปัญหาอะไร เพียงแต่หลายคนที่ใช้จะรู้สึกว่าคันเร่งมันจะหน่วง หน่อย เราก็ติดตั้งกล่องคันเร่งไฟฟ้าของ ECU=SHOP เข้าไป เพื่อเพิ่มสมรรถนะให้เครื่องยนต์มีการตอบสนองได้ไวขึ้น เพิ่มความสนุก และความปลอดภัยในการขับขี่เพียงเท่านั้น ที่เหลือมันก็เป็นรถที่ขับสนุกในแบบที่ PORSCHE ตั้งใจให้มันเป็นอยู่แล้ว

สุดท้ายแล้วความหลงใหลในวัยเด็กของคุณอ้าก็เกิดเป็นรูปธรรมที่ชัดเจน เคียงคู่ไปกับความสำเร็จของ ECU=SHOP ด้วยความมุ่งมั่นเหมือนกับที่ Nakai ตั้งใจทำรถ RWB ของเขาให้เป็นที่ยอมรับระดับสากล ด้วยแรงผลักดันจากความฝันเดียวกันนั่นก็คือรถ PORSCHE !

Share

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *