GT2 CLUB SPORT

ในวันนั้นรถตระกูล GT ไม่เคยอยู่ในความสนใจของผมเลยด้วย อายุ และความรู้ที่น้อย วันนั้นผมชอบแต่รถ Porsche Turbo แต่รถ 996 GT2 เป็นรถคันหนึ่งที่เข้ามาในเมืองไทยแล้วผมรู้สึกตื่นเต้นและ อยากไปเห็นของจริงที่สุด

คงเป็นเพราะวันนั้นผมชอบรถเทอร์โบอยู่กับรถ 930 Turbo RUF BTR มาหลายปี ก่อนที่จะเปลี่ยนมาใช้ 993 Twin Turbo ได้แค่แป๊บเดียว ก็ได้มีโอกาสได้เห็น 996 GT2 รถใหม่ ๆ วันนั้นยังจําได้เลยว่า ผมเดินดู รอบรถ ในรถ ก้มดูช่วงล่าง วนไปวนมาแบบนี้อยู่หลายชั่วโมง รถมัน ดิบได้ใจจริงๆ ยิ่งรู้ข้อมูลว่ารถมันแรงมากและไม่มีตัวช่วยอะไรเลยแถมขับสองอีกต่างหาก มันจะสนุก หรือน่ากลัว ก็ไม่รู้วันนั้นรู้อย่างเดียวว่า อยากขับมันเหลือเกิน

หลังจากวันนั้นไม่นานก็มีโอกาสได้ขับ 996 GT2 จริงๆ สมใจอยาก ผมรู้สึกเกร็งมาก ๆ แต่ก็ต้องขับ ทั้ง ๆ ที่รู้ว่า ถ้าเกิดอะไรขึ้น ผมคงไม่มีปัญญา หามาใช้คืนรุ่นพี่ที่น่ารักของผมที่ให้ผมลองขับ รถเขาในวันนั้นได้แน่ จึงตั้งใจขับแบบระมัดระวัง ที่สุด (ปกติจะเป็นคนที่ไม่ชอบขับรถคนอื่นเลย ยิ่งเป็นรถที่พิเศษยิ่งไม่กล้า ไม่อยากมีปัญหาถ้า มันเกิดอะไรขึ้น)

นี่เป็นหนึ่งในไม่กี่ครั้งในชีวิตจนวันนี้ที่ เมื่อ มีโอกาสผมต้องลองครับ ความรู้สึกแรกคือ คลัตช์ หนักมากเมื่อเทียบกับ 993 Twin Turbo นะครับ หรือเหมือนจะหนักกว่า 930 Turbo ซะด้วยซ้ํา รถมันขับยากหน้าไว ท้ายไว แรงและดิบมากจริงๆ ความรู้สึกวันนั้น คือมันน่ากลัวมากกว่าขับสนุกครับ ยอมรับเลยว่าผมไม่มีความสามารถพอที่จะขับ รถคันนี้ได้แบบสบายใจและไม่เกร็ง ผมคิดแค่ว่า ได้ขับแค่นี้ก็เพียงพอแล้ว กลับมาขับ 993 Twin Turbo แล้วมีความสุขรู้สึกปลอดภัยและ ผ่อนคลายกว่าเยอะ ถึงถ้าชอบ 996 GT2 ก็ไม่มี ปัญญาเป็นเจ้าของเขาอยู่ดี ในที่สุดผมก็อยู่กับ 993 Twin Turbo อีกเกือบสิบปี เป็นรถที่อยู่กับผม นานที่สุดแล้วครับคันนี้ ” ความพิเศษของรถรุ่นนี้ในมุมมองของผมคือ 996 GT2 เป็นรถ Porsche Turbo รุ่นสุดท้ายที่ ดิบจริง ๆ ไม่มีตัวช่วยใด ๆ และที่สําคัญคือ รถ แรงม้าขนาดนี้ที่ขับเคลื่อนด้วยสองล้อหลังเท่านั้น

ถ้าเราขับเขาไปไหนต่อไหนได้อย่างปลอดภัย ไปได้ทุกสภาพอากาศ นั่นคือความฝัน และความ ท้าทายในโลกส่วนตัวของผม ” ส่วนข้อแตกต่างของรุ่น Clubsport กับรุ่น ธรรมดานั้น จริง ๆ แล้วโดยทั่วไปแตกต่างกัน ไม่เยอะครับ ส่วนใหญ่รถ 996 GT2 Clubsport จะมีอุปกรณ์เพิ่มเติม จากรถ GT2 ทั่วไป ในพวก อุปกรณ์เพื่อความปลอดภัยในสนามแข่ง หรือ เพื่อให้ผ่านกฎกติก ของสนามแข่งรถ สําหรับ คนที่ชอบไปขับรถกันในสนามแข่ง แบบที่มีการจัด กันบ่อยๆ เช่น Trackday เป็นต้น ข้อแตกต่างที่ เห็นได้ชัดเจนก็มีดังนี้

• โรลบาร์ GT2 สามารถเลือกแบบไม่มีเลยก็ได้ หรือใส่โรลบาร์ จาก Tequipment ที่เป็นสเตนเลส เงา ๆ กันส่วนใหญ่ แต่ที่ GT2 Clubsport จะใส่ให้ มาเป็นโรลบาร์เหล็กด้านหลัง และน้อยคนที่จะใส่ โรลบาร์ส่วนหน้ากัน (รถคันนี้ผมใส่เป็นโรลบาร์ เหล็กของโรงงานทั้งด้านหลังและด้านหน้าเป็น Full Rollcage)

• เบาะคู่หน้า ของ GT2 ส่วนใหญ่จะเป็น เบาะหนังปรับไฟฟ้า แบบ Sport Seats หรือถ้าเลือก ใส่ Bucket Seats ก็จะหุ้มหนังกันเพื่อให้เข้ากับ ภายในรถ ส่วนรถ GT2 Clubsport จะใส่ Bucket Seats ทรงเดียวกัน แต่หุ้มด้วยผ้ากันไฟน้ําหนักเบาแทน หนัง (รถคันนี้เป็นเบาะ Bucket Seats ที่หุ้มด้วย ผ้ากันไฟของโรงงาน)

•รถ GT2Clubsport จะมีถังดับเพลิงขนาดใหญ่ ยึดติดตั้งไว้กลางที่วางเท้าของคนนั่ง

•รถ GT2 Clubsport ส่วนใหญ่จะไม่มีคอนโซล กลางแนวตั้งเชื่อมต่อกับคอนโซลหน้า 1

•รถ GT2 Clubsport จะมีสวิตช์ตัดไปแบบไฟฟ้า ให้เปิดฝา แล้วกดที่ด้านหน้าสุดของคอนโซลกลาง และจะเชื่อมต่อกับสวิตช์ตัดไฟแบบแมนวลที่ ด้านบนของฝากระโปรงหน้า บริเวณใกล้ ๆ กับกระจก หน้า ซึ่งต้องปลดสายดึงสีแดงออกมา ไว้ให้ สามารถดึงเพื่อตัดไฟได้จากนอกรถ ในกรณี เกิดเหตุฉุกเฉินในสนามแข่ง

• เพื่อลดน้ําหนักรถ ผมก็ถอดวิทยุ และชุด สายไฟออก แล้วใส่เป็นช่องเก็บของแทนวิทยุ – รถคันนี้นําเข้าโดย AAS ผู้แทนจําหน่ายอย่าง เป็นทางการ อยู่กับคนที่ผมรู้จักมาสามคนแล้ว ครับ ก่อนที่ผมจะซื้อต่อเข้ามา รู้ประวัติดี เลย ตัดสินใจขอซื้อมาเก็บเพื่อสานฝันของผมในวัยรุ่น ครับ หลังจากที่ซื้อมาผมก็ส่งเข้าศูนย์บริการที่ AAs ให้ทําทุกอย่าง…

เริ่มต้นใหม่ทั้งเครื่อง เกียร์ ช่วงล่าง และเบรก เพราะอยากให้รถคันนี้ขับได้เหมือนอย่างที่รถ ออกมาจากโรงงาน ให้เดิมที่สุดเท่าที่จะเดิมได้ หลังจากที่เสร็จออกมาแล้ว ปรากฏว่า ทําไมรถถึงได้ ขับนิ่งและขับดี ควบคุมได้ง่ายมาก ๆ จนแปลกใจ แรงเหมือนเดิมที่เคยขับ จึงสอบถามไปที่ AAS ได้ความว่า รถ 996 GT2.1 จะเซตช่วงล่างออกมา จากโรงงานแบบรถสนาม เลยทําให้ไวต่อ พื้นผิวถนน ของบ้านเรามาก พอ 996 GT2.2 ออกมา โรงงาน มีการเปลี่ยนแปลงเซตติ้ง การตั้งค่า ตั้งศูนย์ล้อที่แตกต่าง เพื่อให้ขับได้ดีมากขึ้นบนท้องถนน ทาง AAS เลยจัด เซตติ้งของรถ 2 ให้ เพราะ ทราบว่าผมเป็นคนที่ค่อนข้างขับรถจริงจังมากกว่า จอดดู และต้องการใช้ในการขับขี่ท่องเที่ยว มากกว่า จะใช้ขับในสนามแข่ง ซึ่งผมถูกใจมาก ๆ

ผมเลยสั่งล้อของ 996 GT2 2 มาใส่ แล้วก็ เปลี่ยนหางหลัง กระจกมองข้าง และช่องลมหน้า ที่อยู่เหนือกันชน ที่เป็นชิ้นงานเคฟล่าของโรงงาน มาเปลี่ยนรวมถึงงานเคฟล่าภายในอีกเท่าที่โรงงาน ผลิตออกมาใส่ ทั้งนี้ทราบว่าช่วงล่างไม่มีอะไร แตกต่างกัน แค่ตั้งค่าแตกต่างรถคันนี้จึงดูเหมือน 996 GT2.2 ยกเว้นอย่างเดียวที่ผมทําไม่ได้คือ แรงม้า และทอร์คของรถ 996 GT2.2

รถคันนี้ผมถอดของเก็บไว้ทั้งหมด พร้อมที่ จะกลับมาเป็นรถเดิม ๆ เหมือนออกมาจากโรงงาน ตามใบเกิดได้เลย ซึ่งผมว่าสําคัญที่สุดแล้ว ปลอดภัยด้วยครับ ล้อเดิมของ 996 GT2.1 โรงงานไม่มีให้เบิกของใหม่แล้วครับ ที่ผมสั่งล้อของ 996 GT2.2 มาใส่จึงเป็นการตัดสินใจที่มีพื้นฐาน มากจากการที่เราต้องการเก็บล้อเดิมติดรถเอาไว้ ซึ่งยังไม่เคยทําสีเลยด้วยครับ ริ้วรอยที่เกิดขึ้น มันเกิดขึ้นตามการใช้งาน เลยอยากเก็บเอาไว้ แบบเดิม ๆ ที่สุด เช่นเดียวกันกับภายในก็ไม่มี ซ่อมหรือพ่นสีเก็บหนังที่มันเป็นรอย และยังคงสภาพ และกลินเอาไว้ ผมว่ามันขลังดีครับ

ส่วนตัวผมชอบขับมาก ดุดัน ถึงใจ ไม่แรง จนน่ากลัวเกินไปที่สําคัญคือ ผมต้องปรับตัว เข้าหารถ ซึ่งมันเป็นความท้าทายของผม ทุกวันนี้ ต้องบอกตัวเองก่อนขับเขาทุกครั้งว่าต้องมีสติ และใจเย็น ไม่เสี่ยงขอปลอดภัยที่สุด เพราะผม รักรถคันนี้มากครับ

ในด้านการขับขี่ต่างจากการขับรถ 996 GT2 อย่างเห็นได้ชัดคือ การติดตั้ง Full Roll Cage ครับ รถมันให้ตัวบิดตัวน้อยลง เลี้ยวได้คมขึ้น และ มั่นใจมากขึ้น ข้อควรระวังคือ ควรใส่ Seat belt แบบ 6 จุด กับใส่หมวกกันน็อก ถ้าจะขับขี่ ในสนาม หรืองาน Trackday ครับ เพื่อป้องกันหัว กระแทกกับโรลบาร์หน้า ภาพรวมคือเป็นรถที่ ขับสนุกมาก ฯลฯ

Share