GT3 is a charm

ในที่สุดผมก็ได้ขับ 991 (Gen2) GT3 ในแบบที่ รอมานาน นั่นคือการพาไปเที่ยว  ถือเป็นทริปแรกเลยสำหรับ GT3 คันนี้  หลังจากที่ได้รันอินไปแล้วเบาๆกว่า 1,500 กิโลเมตรในบ้านเราผมก็ได้ส่งตัว GT3 ขึ้นเทรลเลอร์ไปยังหาดใหญ่ ก่อนที่จะขับข้ามไปยังประเทศมาเลเซียเพื่อท่องเที่ยวกับเพื่อนๆ เป็นเวลา 4 วันเต็มๆ

ผมมาขับรถที่นี่ครั้งแรกก็เมื่อปี 2015 นึกย้อนไปถึงปีนั้น เป็นครั้งแรกที่ได้มีโอกาสสัมผัสกับ 997 GT3RS ของเพื่อนชาวมาเลเซีย  ในปีนั้นผมใช้ 997 turbo อยู่คันหนึ่ง แต่เมื่อได้สัมผัสกับ GT3RS แล้ว จึงรู้ว่าเป็นรถที่นั่งสบาย และช่วงล่างนุ่มนวลกว่า turbo ของผมเสียอีก จึงได้ตั้งใจไว้ว่ารถคันต่อไปจะต้องเป็นรถตระกูล GT แน่ๆ

ผ่านไปสามปีพอดี จึงได้ทำให้ความตั้งใจนั้นเป็นจริง ขับ 991 GT3 มาเยี่ยมหลายๆเมืองในมาเลเซีย กว่า 1,200 กิโลเมตรในเบาะนั่ง Lightweight Bucket Seat ต้องใช้เวลาในการปรับตัวเล็กน้อย ต้องฝึกวิธีหย่อนตัวลงนั่งและการลุกออกจากรถให้ดูแบบโปร และเพื่อหลีกเลี่ยงการนั่งบนปีกเบาะซึ้งอาจทำให้เกิดความเสียหายด้วย

เบาะ Lightweight คู่นี้บังคับให้เรานั่งหลังตรง การปรับทำได้อย่างเดียวคือปรับระดับสูง-ต่ำด้วยปุ่มควบคุมด้วยไฟฟ้า  นั่งไม่ได้สบายที่สุด แต่ก็ให้ความรู้สึกมั่นใจเมื่อเข้าโค้ง แต่ที่สำคัญคือมันเป็นเบาะที่สวยมากกกกกกก

ช่วงล่าง GT3 ให้ความรู้สึกนิ่งสนิท เกาะถนนดีอย่างเหลือเชื่อ ระบบเลี้ยวล้อหลังช่วยให้รถเข้าโค้งได้แคบแบบไม่มีหลุดออกไปอีกเลนเลยสักนิดเดียว

เกียร์แมนนวล 6 สปีดกับคลัทช์นุ่มเท้าซ้ายทำให้ขับได้แบบไม่เหน็ดเหนื่อยจนผมเริ่มเคยตัวเสียแล้ว  แต่ที่เป็นจุดขายของรถคันนี้คงต้องยกให้กับเครื่องยนต์ 4.0 ลิตรแบบไม่อัดอากาศเครื่องนี้ เพราะมีแรงดึงตั้งแต่รอบต่ำ และดึงต่อเนื่องยาวไปจนถึง 9,000 รอบแบบไม่มีหย่อนเลยแม้แต่นิดเดียว

น่าเสียดายที่บทความนี้ไม่สามารถถ่ายทอดเสียงที่ดังลอดท่อออกมาในช่วงเร่งความเร็วจาก 8,000 – 9,000 รอบ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเวลาที่ขบวนรถของพวกเราวิ่งลอดอุโมงค์ ถ้าลดกระจกลงมาฟังนี่มีอาการหูดับกันเลยทีเดียว แต่เพราะกว่าฟังวิทยุครับ


บทความโดย สุรเชษฐ วรวงศ์วสุ
นิตยสาร GTPORSCHE ฉบับที่ 39

Share

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *