RUF CTR2 : DIAMOND IN THE RUF

ตัวเปลี่ยนเกมที่หายาก RUF CTR2 คือหนึ่งใน 911 ที่ไม่ใช่ Porsche ที่มีความสำคัญที่สุดที่เคยสร้างมา

การพัฒนารถสปอร์ตสมรรถนะสูงที่ใช้พื้นฐานของ 911 มีแรงม้าขนาด 469 แรงม้า มันเป็นสิ่งที่ยากที่จะคาดหวังว่าอะไรจะเกิดขึ้นจากบริษัทที่ก่อตั้งขึ้นเมื่อ 1939 ด้วยการเป็นอู่ซ่อมทั่วไป ก่อนที่จะกลายเป็นสถานีเติมน้ำมันและบริษัทรถบัสหลังจากสงครามโลกครั้งที่สองใกล้จะสิ้นสุดลง แต่ CTR ที่ผลิตในจำนวนจำกัด “Yellowbird” ที่เปิดตัวจากอู่ Pfaffenhausen ของ RUF ในปี 1987 ทำให้โลกแห่งยานยนต์สว่างไสวด้วย Carrera 3.2 หกสูบนอนที่ได้รับการปรับแต่งอย่างสูง มันขยายขนาดเป็นเกือบ 3.4 ลิตร และติดตั้งเทอร์โบชาร์จคู่ หลายคนที่ไม่ได้อยู่ในวงการของ Porsche นี้คือครั้งแรกที่ชื่อของ RUF จะเข้ามาอยู่ในความสนใจ มันจะสร้างความประทับใจไม่รู้ลืมไม่ว่าจะเป็นระบบขับเคลื่อนล้อหลัง เกียร์ 5 สปีด ระบายความร้อนด้วยลม CTR ล้อห้าก้าน Speedlines และ ช่วงล่าง Bilstein ซึ่งมีประสิทธิภาพเหนือกว่าซูเปอร์คาร์ที่มีชื่อเสียงที่สุดในทศวรรษอย่าง Ferrari Testarossa และ F40, Lamborghini Countach และ Porsche 959 อันยิ่งใหญ่ นอกจากนี้ CTR ยังทำสถิติอย่างไม่เป็นทางการที่สนาม Nordschleife เป็นเวลาหลายปี เจ้าคูเป้สีเหลืองสดใสนี้อาจได้รับฉายาที่น่ารักแต่ Alois Ruf Jr ได้สร้างสัตว์ประหลาดขึ้นมา

CTR ได้รับการขนานนามอย่างรวดเร็วว่าเป็นรถสปอร์ตที่ผลิตมาเพื่อขายเร็วที่สุดในโลก สถานะนี้เป็นผลจากการจัดประเภทในฐานะผู้ผลิตโดยรัฐบาลเยอรมัน โดยพื้นฐานแล้ว RUF ใช้ตัวถังที่ไม่ติดตรา Porsche ซึ่งใช้ในการสร้างรถใหม่ ไม่มีเลขแชสซีของ Porsche RUF ประกอบขึ้นโดยใช้ชิ้นส่วนและวัสดุของ Pfaffenhausen ถึงแม้จะใช้ชื่อบริษัทมานำหน้า อย่างไรก็ตาม Green Hell ที่พิชิต CTR มันไม่ใช่ครั้งแรกที่ Alois Jr ทดลองปรับแต่งรถ Porsche

ตั้งแต่ช่วงปลายทศวรรษ 1960 Alois Sr ได้ยอมให้ลูกชายที่หลงใหลใน 911 ของเขาดูแลและซ่อมแซม Porsches ควบคู่ไปกับการทำงานประจำวันในส่วนที่ขยายของบริษัท เมื่อ Alois Sr จากไปอย่างน่าเศร้าในปี 1974 Alois the Younger ได้เข้าควบคุมกิจการและเปลี่ยนความสนใจทั้งหมดไปที่การซ่อมบำรุงและการปรับแต่งรถ Porsche ภายในสิบสองเดือน 911 ที่ได้รับการปรับแต่งจาก RUF คันแรกได้พังทลายลงซึ่งเป็นการปูทางไปสู่การพัฒนาเทคโนโลยีที่ก้าวล้ำ สองปีต่อมา RUF Turbo Number One ปรากฏตัวขึ้น โดยมีการขยายขนาด 3.3 ลิตร หกสูบนอน 300bhp เอาชนะ 911 Turbo (930) 3.3 ของ Porsche ที่ผลิตในปีนั้น โดยการยอมรับของ Alois Jr Turbo Number One นั้นค่อนข้างขับยาก ซึ่งมันมีอะไรมากกว่าแค่การกดคันเร่ง การเคลื่อนไหวและตำแหน่งตอนออกจากโค้งอาจจะทำให้คนขับเข้าใจผิดได้ อุปกรณ์บังคับเลี้ยวที่หนักและด้านหน้าที่เบากว่า 930 บังคับให้ผู้ขับนั้นต้องมีสมาธิตลอดเวลา มันผลิตเพียงสี่คัน ทุกคันมากับเกียร์ห้าสปีด ซึ่งไม่มีใน 930 จนกระทั่งปี 1989 มันบังคับให้ Porsche ต้องทำในปีสุดท้ายของการผลิต

SCR ของปี 1978 ตามด้วย Turbo Number One พื้นฐานบน 911 SC นั้นมีให้เลือกทั้งแบบตัวถังเพรียวคูเป้หรือแบบ Targa มีกำลัง 215bhp และสามารถพุ่งไปที่ 62 ไมล์ต่อชั่วโมงจากจุดหยุดนิ่งในเวลา 5.7 วินาที SCR มีคันเดียวที่ถูกสร้างขึ้นด้วยหมายเลขแชสซี RUF ในขณะที่คันอื่น ๆ ทั้งหมดเป็นการแปลงมาจาก 911 SC ที่เป็นลูกค้าของ Porsche จนกระทั่ง RUF BTR ของปี 1983 ดูเหมือนว่าความฝันของ Alois Jr ในการเข้าสู่ตลาดรถสปอร์ตกำลังสูงกำลังเริ่มเป็นจริง มันมีทั้งในแบบตัวถังแคบหรือตัวถังกว้าง BTR แต่ละคันสร้างขึ้นจากแชสซีเปลือยของ Porsche และให้กำลังด้วยเครื่องหกสูบนอน เทอร์โบชาจร์ 3.4 ลิตร 369bhp แรงบิด 350lb-ft ที่ 4,800rpm มันเป็นสมรรถนะที่โหดร้าย Car & Driver ได้ตั้งเวลาจากหยุดนิ่งไป 60 ไมล์ต่อชั่วโมงไว้ที่ 4.3 วินาที ความเร็วสูงสุดบันทึกได้ที่ 190mph Road & Track กล่าวว่า RUF เป็นรถที่ผลิตมาขายที่เร็วที่สุดในโลกหลังจากการทดสอบในปี 1984

สามปีต่อมาความเสียหายที่เกิดขึ้นกับกลุ่มรถซูเปอร์คาร์โดย CTR ที่ปล่อยออกมาในตอนนั้นกระตุ้นให้สื่อยานยนต์หลายแห่งย้อนกลับไปดูแคตตาล็อกย้อนหลังขนาดเล็กแต่น่าประทับใจของ RUF ดังนั้นแม้ว่า BTR ที่ทดสอบวิ่งโดย Road & Track จะวิ่งไปมากกว่า 211,000 ไมล์ พบว่าตัวมันเองสามารถเทียบชั้นกับรถสปอร์ตยุโรปแปลกๆใหม่ๆรวมไปถึง Lamborghini Countach 5000 QV, AMG W124 300 E ‘Hammer’, Ferrari 288 GTO และ Testarossa RUF ที่ถูกเก็บรักษามาอย่างดีมีประสิทธิภาพดีกว่ารถที่สร้างขึ้นมากใหม่เหล่านี้

ในปี 1992 RUF CR2, CR4, BR2 และ BR4 ที่มีพลังน้อยกว่าได้มาและจากไป แทนที่จะตอบสนองความต้องการด้านประสิทธิภาพของ CTR Alois Jr ได้ผลิตรุ่นที่ใช้พื้นฐาน 964 อย่างระมัดระวังและประณีตมากกว่าที่ Porsche ได้ไปวางขายที่โชว์รูมของตัวแทนจำหน่าย มันไม่มีแรงม้าที่บ้าคลั่ง ไม่มีเครื่องที่ใหญ่โต เพียงแค่รถสปอร์ตที่ได้รับการตกแต่งด้วยแบบสั่งล่วงหน้าและอุปกรณ์มาตรฐานที่พัฒนาขึ้นใหม่ แต่ละคันของ SCR ลูกค้าส่วนใหญ่จะเอา 911 ที่มีอยู่แล้วมาทำการแปลงที่ RUF และถูกส่งกลับไปด้วยรถที่มีกำลังเท่ากับ 930 แต่ไม่มีเทอร์โบชาร์จเจอร์ โดยไม่มีประกาศใดๆ RUF เป็นเพียงแค่การให้บริการตกแต่งและพัฒนาสำหรับแฟนๆ Porsche ที่มีฐานะร่ำรวยของแบรนด์ Stuttgart

NEW DIRECTION

หลังจากที่ตรา BTR ได้รับการคืนชีพในช่วงสั้น ๆ สำหรับสัตว์ร้ายที่ใช้เครื่องยนต์ 3.8 ลิตร 964 ในปี 1992 และหลังจากการสร้างโมเดล RCT และ RCT Evo เทอร์โบเดียวของ RUF (งานสร้างตามความต้องการที่สร้างขึ้นโดยใช้ชิ้นส่วนที่เหลือจากการแปลง BTR 3.8) ก็มีความคิดที่จะหันกลับมาเล่นกับ Porsche ใหม่รุ่น 993 สุดยอดแนวคิด 911 ที่ระบายความร้อนด้วยอากาศดั้งเดิมของ Porsche นั้นได้รับการออกแบบใหม่ตั้งแต่ต้น รวมไปถึงเครื่องยนต์ของรุ่นนี้ด้วยคนใหญ่โตที่ Zuffenhausen ยกย่องการออกแบบของ Tony Hatter ว่าเป็น“ ความก้าวหน้าครั้งสำคัญไม่ใช่แค่ในด้านเทคนิคเท่านั้น แต่ยังรวมถึงมุมมองทัศนคติด้วย” ในแบบ GT2 993 ยังถูกใช้เป็นรถ  safety car ใน Formula One ปี 1995 ความสนใจที่กลับมาใหม่ในกลุ่มผลิตภัณฑ์ของ Porsche นั้นทำให้ Alois Jr มีโอกาสที่ดีในการประเมินผลงานบริษัทของเขาเองอีกครั้ง

BTR ดั้งเดิมถือเป็นรถที่ผลิตมาขายที่ ‘เหมาะสม’ คันแรกของ RUF และถึงแม้ว่ารุ่นนี้แทบจะไม่ปรากฏในเอกสารการขายของบริษัทนับตั้งแต่มีการเปิดตัวรุ่นนี้เมื่อกว่าทศวรรษก่อน แต่ก็เป็น BTR และ CTR รุ่นล่าสุดที่ทำลายสถิติของสมรรถนะจนประสบความสำเร็จทำให้ RUF py’ฉุดตลาดโลกที่มีการแข่งขันสูงไว้ได้ การมาของ 911 เจนเนอเรชั่นใหม่ทำให้มีโอกาสที่ดีเยี่ยมในการทบทวนการออกแบบของทั้งสองรุ่นโดยมีมุมมองจากพื้นฐาน 993 ในการพัฒนา BTR และ CTR สู่ยุคใหม่

AHEAD OF THE GAME

เมื่อ 408bhp 993 Turbo มาถึงในปี 1995 มันมีแต่เฉพาะรุ่นขับเคลื่อนสี่ล้อและตัวถังแบบกว้าง หนึ่งปีก่อนหน้านี้ RUF ได้เปิดตัว BTR2 ที่มี 420bhp และมีให้เลือกแบบคูเป้หรือเปิดประทุนตัวถังเล็ก ยิ่งไปกว่านั้นมันยังเป็นแบบขับเคลื่อนล้อหลังซึ่งเป็นที่พอใจของผู้ที่สนใจแต่ขับเคลื่อนล้อหลังที่เป็น  Porsche 911 แบบดั้งเดิม ถึงกระนั้นน้อยกว่ายี่สิบคันของ BTR2 ถูกสร้างขึ้นในระหว่างสามปีของช่วงการผลิต ซึ่งส่วนใหญ่เกิดขึ้นควบคู่ไปกับการพัฒนาและการประกอบ CTR2 ที่สร้างแรงบันดาลใจให้ RUFกลับมาอยู่ในอันดับต้น ๆ ของผู้สร้างรถสมรรถนะสูง

มีให้เลือกทั้งในรูปแบบขับเคลื่อนล้อหลังหรือขับเคลื่อนสี่ล้อ CTR2 กลายเป็นก้าวสำคัญที่จะเข้าไปอยู่ในเรื่องราวของรถซูเปอร์คาร์ในทันทีด้วยการพุ่งจากศูนย์ถึง 60mph โดยใช้เวลาเพียง 3.6 วินาทีและความเร็วสูงสุดมากกว่า 220mph ราคาที่ $315,000 รุ่นนี้ทำให้ RUF กลับมาอยู่ในระดับท็อปฟอร์มเช่นเดียวกับ CTR รุ่นก่อนหน้านี้ CTR2 ครองตำแหน่งรถสปอร์ตที่ผลิตเพื่อขายเร็วที่สุดในโลก เหนือกว่าผู้ผลิตอย่าง Ferrari, Jaguar หรือรถจากญี่ปุ่น มันคือ CTR2 ที่ยังครองตำแหน่งไว้จนกระทั่ง McLaren F1 รถที่มีมูลค่าหนึ่งล้านเหรียญสหรัฐที่ทำลายสถิติความเร็วสูงสุดในปี 1998 ทำให้รถที่มีพื้นฐาน Porsche เทอร์โบชาร์จคู่ได้กลายเป็นรถตลาดเร็วที่สุดในโลกอันดับสองในช่วงทศวรรษที่ 1990

เช่นเดียวกับในกรณีของการพัฒนา CTR CTR2 นั้นอยู่บนพื้นฐานของ 911 ที่มีเสียงเป็นธรรมชาติและตัวถังเล็ก อย่างไรก็ตามน้ำหนักที่ลดลงของ 993 และรูปร่างที่น่าพอใจด้วยแรงเสียดทานที่ต่ำ ทำให้ Alois Jr คิดว่า RUF ควรที่จะออกแบบรุ่นใหม่ของมันอย่างไร ตัวถัง RUF รุ่นก่อนหน้าไม่ได้ออกแบบต่างจาก 911 เดิมๆที่มันใช้เป็นพื้นฐานเลย ด้วยกันชนไฟเบอร์กลาสและล้อน้ำหนักเบาที่ออกแบบมาเป็นพิเศษโดยปกติแล้วชิ้นส่วนภายนอกจะไม่ใช่ของ Stuttgart เลยในทางตรงกันข้ามรูปร่างของ 993 นั้นต้องมีการปรับแต่งอย่างละเอียด สิ่งที่หายไปแล้วคือรางน้ำฝนและกระจกมองข้าง กระจกด้านหลังถูกเปลี่ยนให้มีขนาดเล็กลง กันชนด้านหน้าและด้านหลังถูกสั่งทำขึ้นมาใหม่ช่วยเพิ่มแรงกดและป้อนอากาศให้กับระบบระบายความร้อนและหม้อน้ำที่ใหญ่ขึ้นโดยแต่ละตัวมีพัดลมไฟฟ้าเป็นของตัวเอง พื้นประตูได้รับการปรับปรุงใหม่เพื่อลดการเกิดรอยขีดข่วน ตัวถังส่วนใหญ่ประกอบด้วยคาร์บอนเคฟลาร์ จากนั้นปีกหลังกลวงขนาดใหญ่ของ CTR2 โดยที่ BTR2 จะใส่หางวาฬของ 964 Turbo ภายหลังการตกแต่งด้านหลังของ RUF นั้นเป็นการออกแบบแบบสั่งทำโดยมีฝาปิดเครื่องยนต์และสปอยเลอร์แบบยกสองชั้นขนาดยักษ์โดยมีช่องรับลมแนวนอนแยกจากกันสำหรับกรองอากาศและอินเตอร์คูลเลอร์คู่ซึ่งอยู่ในตำแหน่งที่เหมาะเจาะหลังล้อหลังที่ซึ่งมีความกดอากาศต่ำถึง 0.4bar เพื่อดูดอากาศร้อนออกผ่านช่องระบายอากาศที่กันชน Porsche เองนั้นให้ความสนใจอย่างมากกับสิ่งที่ Alois Jr ทำ การออกแบบที่เหมือนกันนี้ในเวลาต่อมามันกลายเป็นมาตรฐานของ 996 Turbo

แรงกดขนาดใหญ่ที่สร้างโดยสปอยเลอร์เป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างมาก ความเร็วสูงสุดของ CTR2 ทำให้มีการยกที่น่ากังวลอย่างยิ่ง เครื่องยนต์ของรถที่สร้างขึ้นด้วยมือ หัวเทียนคู่ 3.6 ลิตร หกสูบนอน ที่ติดตั้งระบบการจัดการเชื้อเพลิง TAGtronic และอยู่บนพื้นฐานของขุมพลังที่ใช้ขับเคลื่อนรถต้นแบบ Le Mans 962 Group C โดยมีกำลัง 580bhp (CTR2s ในช่วงต้นมีกำลังที่ 520bhp) และแรงบิด 506lb-ft พร้อมอัตราส่วนกำลังต่อน้ำหนักที่ 427bhp ต่อเมตริกตันที่ 5,900rpm มันไม่ธรรมดาจริงๆ แต่ก็ยังสงสัยว่าทำไม CTR2 แต่ละคันจึงติดตั้งโช้คอัพของ Bilstein สปริงแบบสั่งทำของ Eibach และโรบาร์ เสาค้ำยันน้ำหนักเบาและจานเบรกคาร์บอนเซรามิกขนาด 360 มม. ที่หยุดด้วยคาลิปเปอร์แบบสี่ลูกสูบ

เพื่อที่จะอวดโฉมของปีศาจสายพันธุ์ใหม่ว่าสามารถทำอะไรได้บ้าง Alois Jr ได้นำ CTR2 Sport ต้นแบบทั้งสองคันเข้าร่วมรายการปีนเขา Pikes Peak International Hill ปี 1997 ในแต่ละคันมีกำลังถึง 702bhp และตัวรถถูกสร้างขึ้นด้วยวัสดุไทเทเนียมและในขณะที่สร้างขึ้นตามกฎข้อบังคับของ FIA น่าอัศจรรย์ที่ยังถูกกฎหมายบนท้องถนนอีกด้วย สิ่งนี้ทำให้ RUF สามารถสร้างการรับรู้ได้มากยิ่งขึ้นโดยการตรวจสอบให้แน่ใจว่ามีรถแข่งรุ่นใหม่สามารถขับได้บนทางหลวงได้ ที่สำคัญความยืดหยุ่นของ CTR2 อยู่ในฐานะรถบนถนนที่เร็วมากกว่ารถแข่ง การขับโดยพี่น้องนักแข่งอย่าง Steve และ David Beddor ทำให้ CTR2 ถูกตีตราสัญลักษณ์รถสปอร์ตโดยจบที่สองและที่สี่ในรายการแข่งแบบ Open Class ก่อนหน้านี้ Steve ได้พา RUF ได้อันดับหนึ่งในรอบคัดเลือกและต่อมาก้ได้ไปชนะในรายการ  Virginia City Hill Climb สามครั้งติดต่อกัน ชัยชนะอีกยี่สิบครั้งในการแข่งขันต่างๆตามมาทำให้สถานะของ CTR2 เป็น 911 ที่ไม่ใช่ Porsche ที่สำคัญที่สุดแห่งทศวรรษ

PEAK PERFORMANCE

มีเพียงแค่สิบสองคันของรุ่น Sports แต่มี CTR2 รุ่นธรรมดาสิบหกคันถูกสร้างระหว่างปี 1996 และ 2000 CTR2 จึงเป็นรถที่หายาก ซึ่งเป็นเหตุผลว่าทำไมเราจึงรู้สึกตื่นเต้นที่ได้ใช้เวลาร่วมกับหนึ่งในสิบหกคันที่แสนหวานเมื่อเข้าพักที่บ้านของ RUF ในสหราชอาณาจักรที่เมือง West Sussex รถคันนี้ถูกสร้างขึ้นเมื่อปี 1997 มันถูกใช้ไปกว่าสามหมื่นไมล์ ตกแต่งด้วยสี Arctic Silver Metallic ภายในตกแต่งเป็นหนังสีเขียวนุ่ม ๆ ที่คาดไม่ถึง ซึ่งห่อหุ้มไว้รอบ ๆ เบาะนั่งแบบสปอร์ต Koenig พวกมันเข้ากันกับพรมที่ขนฟูและสีเดียวกัน ทั้งด้านบนและด้านหน้าของแผงหน้าปัดก็หุ้มด้วยสีโทนเดียวกันและกับที่อื่น ๆ อีกมากมาย เหลือไว้เพียงพวงมาลัยแบบสามก้านสีดำ เช่นเดียวกับการตกแต่งภายในแบบสั่งทำจำนวนมากจากคนรวยยุค 1980 และ 1990 เรากำลังนั่งอยู่ในห้องโดยสารที่อธิบายได้ดีที่สุดว่าเป็นรสนิยมที่ได้รับมา มันอยู่ในตำแหน่งระหว่างหินอ่อนสีเขียวและห้องน้ำของคุณยายของคุณ บนแบบร่างสิ่งพวกนี้ไม่น่าจะเข้ากันแต่เมื่อมันมาอยู่กับตัวรถสีเงินที่ละเอียดอ่อนและการใช้สีดำ เราก็ต้องยอมรับว่าภายในของ CTR2 ที่น่าตื่นเต้นนี้ดูยอดเยี่ยม

SLICE OF THE PIE

การเข้าไปในรถอาจเป็นเรื่องยุ่งยากหากคุณหลงระเริงไปกับพิซซ่ามากเกินไปในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา แต่เมื่อคุณได้สำรวจรอบ ๆ หมอนขนาดใหญ่ข้างเบาะแล้วคุณจะได้พบกับ 993 ที่ค่อนข้างได้มาตรฐานถึงแม้ว่าจะมีสีเขียวที่แปลกตา แม้แต่วิทยุ Becker Grand Prix ที่อยู่ในแผงด้านหน้าคุณก็จะไม่สนใจสิ่งที่เกิดขึ้นในวิทยุเมื่อคุณมีเครื่อง TAGtronic เทอร์โบชาร์จคู่ หกสูบนอน ที่สร้างเสียงอันเป็นเอกลักษณ์จากด้านหลัง เสียงนั้นแหบแห้งกว่าเพลงของชาวร๊อคเสียอีกและเสียงที่เหมือนกันยังมาจากหอยคู่ KKK ที่กำลังดึงอากาศเข้าไปเพิ่มกำลัง การที่รถคันนี้วิ่งด้วยความเร็วสูงเป็นเรื่องที่น่าอัศจรรย์ อันที่จริงแล้วแม้จะมีอายุมากกว่าสองทศวรรษ แต่ CTR2 ก็เป็นมากกว่ารถซูเปอร์คาร์ในยุคปัจจุบัน

RUF ได้พัฒนาระบบเกียร์ 6 สปีดของตัวเองสำหรับ CTR2 และเพิ่มเฟืองท้ายลิมิเต็ดสลิปหกสิบเปอร์เซ็นต์เข้าไป แต่ในขณะที่บริษัทอื่นตัดสิ่งอำนวยความสะดวกเพื่อให้ได้รถที่เร็วด้วยการลดน้ำหนัก Alois Jr ไม่พร้อมที่จะทำอย่างนั้น ดังที่คุณเห็นในภาพถ่ายของเราเครื่องปรับอากาศยังคงอยู่เช่นเดียวกับหน้าต่างที่ทำงานด้วยระบบไฟฟ้าแม้ว่าถุงลมนิรภัยของคนขับจะถูกทิ้งไปพร้อมกับการติดตั้งพวงมาลัยเฉพาะของ RUF แน่นอนว่าการประกอบตัวถังนั้นทำให้ลดความเทอะทะลงอย่างมาก เช่นเดียวกับล้อแมกนีเซียม OZ Racing แต่เพื่อให้สอดคล้องกับชื่อเสียงของ Porsche ที่ผลิตรถซูเปอร์คาร์ที่สามารถใช้ในการขับขี่ชีวิตประจำวันได้ CTR2 สามารถเป็นได้ทั้งผู้ดีและปีศาจได้ตามที่คุณต้องการ ด้วยตัวเลือกขับเคลื่อนสี่ล้อช่วยลดความเป็นไปได้ที่จะเกิดข้อผิดพลาดจากผู้ขับได้อย่างมากในระหว่างการขับเคี่ยวกันอย่างสนุกสนานบนถนนชนบทที่คุณชื่นชอบ

การที่จำนวนของเจ้าของ RUF ที่เพิ่มขึ้นทำให้มันเป็นที่รู้จักในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาและมีจำนวนไม่น้อยในสหราชอาณาจักรหลังจากที่ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นตัวแทนจำหน่ายและที่เก็บรถในปี 2016 ก่อนหน้านี้ลูกค้าของ RUF ในเมือง Blighty เจอปัญหาทางด้านภาษาเมื่อต้องติดต่อกับสำนักงานใหญ่ใน Pfaffenhausen หรือความยุ่งยากในการทำงานผ่านตัวแทนจำหน่ายที่เป็นบุคคลที่สาม ด้วยปัญหาทั้งสองอย่างนี้จึงทำให้มีการก่อตั้ง RUF Automobile UK ขึ้นมาอย่างไรก็ตามจำนวนเจ้าของ RUF ที่แท้จริงในประเทศเริ่มชัดเจนขึ้นมา ซึ่งมันพิสูจน์ว่ามันมีประโยชน์ในการที่จะติดตามรถแต่ละคัน บันทึกของ RUF ยังขาดข้อมูลสำคัญจนกระทั่งเมื่อไม่นานมานี้หมายถึงว่าจำนวนที่แท้จริงของแต่ละรุ่นที่สร้างหรือรถที่มาแปลงมันยากที่จะตรวจสอบ สิ่งที่ท้าทายในปัญหาต่างๆนั้นคือการให้ลูกค้าลงทะเบียนรถของพวกเขากับผู้ผลิต อย่างไรก็ตาม W10BD19 (ตามที่ระบุไว้บนแผ่น VIN) ที่อยู่ตรงหน้าเราและมันงดงามอย่างยิ่งในทุกๆด้าน ถึงแม้ว่าหนังสีเขียวอ่อนจะไม่ได้รับยอมรับจากคนทั่วไปก็ตาม ไม่ต้องสงสัยเลยเช่นเดียวกับ RUF ทั้งหมด CTR2 อยู่ภายใต้เงามืดของ ‘Yellowbird’ ดั้งเดิมแต่มันทำให้รถคลาสสิกระบายความร้อนด้วยอากาศนี้มีความสามารถพิเศษอย่างแท้จริง และถ้าจะให้พูดตามตรงพวกเราส่วนใหญ่ยินดีที่จะเป็นเจ้าของ RUF ที่สร้างจากโรงงานไม่ว่าจะเป็นสีหรือคุณสมบัติใดก็ตาม

SPORT OF KINGS

CTR2 Sport รุ่นแรกและ CTR2 รุ่นสิบเอ็ดถูกสร้างขึ้นมา รถต้นแบบของ Steve Beddor ที่มีสี ‘Yellowbird’ ตัวถังแบบกว้าง ขับเคลื่อนล้อหลังมีสถิติการแข่งขันที่ยอดเยี่ยมและถูกต้องตามกฎหมายในทั้งใน Germany และ USA รถคันนี้ได้รับการตกแต่งด้วยโช๊ค Öhlins และระบบฉีดน้ำแบบ GT2 RS ไม่นานมานี้รถผ่านการขายใน Les Grandes Marques du Monde au Grand Palais ของ Bonhams โดยมีราคาขั้นต่ำที่ประมาณ £1.2 ล้าน

บรรยาย หน้า 47 บน

เช่นเดียวกับ CTR ก่อนหน้านี้ CTR2 ได้รับการจัดอันดับให้เป็นรถบ้านสปอร์ตที่เร็วที่สุดในโลกโดยมีประสิทธิภาพเหนือกว่า FERRARI หรือ JAGUAR

บรรยาย หน้า 47 กลาง

Above เช่นเดียวกับการพัฒนา RUF ช่องระบายอากาศที่กันชนนั้นทำงานได้ดี

บรรยาย หน้า 47 ล่าง

Facing page 580bhp หกสูบนอนมีระบบไอดีที่ได้รับการปรับปรุงใหม่ทั้งหมดป้อนอากาศให้อินเตอร์คูลเลอร์ที่ติดตั้งอยู่ด้านข้างและกรองอากาศแบบสั่งทำผ่านทางสปอยเลอร์หลังที่สร้างขึ้นมาใหม่

บรรยาย หน้า 48 บน

เพื่อที่จะอวดโฉมปีศาจสายพันธุ์ใหม่ว่าสามารถทำอะไรได้บ้าง Alois Jr ได้นำ CTR2 Sport ต้นแบบทั้งสองคันเข้าร่วมรายการปีนเขา Pikes Peak International Hill ปี 1997

บรรยาย หน้า 49 บน

Facing page ภายในสีเขียวอ่อนตกแต่งโดยฝีมือคุณภาพและสีเงินที่ภายนอกเช่นกัน

บรรยาย หน้า 49 ล่าง

Below เบาะนั่งแบบสปอร์ตของ Koenig ได้รับความนิยมอย่างมากในช่วงปี 1990

บรรยาย หน้า 50 บน

มันอาจไม่โด่งดังเท่ากับ CTR ‘Yellowbird’ แต่ CTR2 ก็เป็นมีบทสำคัญไม่ใช่น้อยในประวัติศาสตร์ของรถสปอร์ตสมรรถนะสูง

Share

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *