RWB 930 Turbo G-Series : World First RWB G-Series Out of Japan

.

สําหรับเจ้า RWB ‘Painkiller’ 930 Turbo คันนี้ ผมยังติดใจในความ “ดิบเดือด” เพราะเป็น 930 Turbo ที่ขึ้นชื่อว่าแรงและก้าวร้าวในตระกูล 911 ก็ว่าได้ แค่เดิมๆ ก็สุดใจแล้ว แต่มาทรงเครื่อง RWB ที่ผ่านมือ ‘นาไกซัง’ หรือ Mr. Akira Nakai เจ้าสํานักที่บรรเลงศิลปะอันเป็นเอกลักษณ์ของแต่ละคัน คิดดูว่าจะทรงคุณค่าขนาดไหน

.

“จุดเริ่มต้นในการแต่ง RWB ของผม ต้องย้อนกลับไปถึงสิ่งที่ตนชอบตั้งแต่สมัยเด็กในยุคปี 80’s รถแข่งส่วนใหญ่จะขยายโป่ง เพื่อให้เหมาะสมกับขนาดล้อที่กว้างขึ้น ด้วยโป่งเย็บแบบ Flare Fender ซึ่งตัวผมเองก็ชอบมากๆ และมีรถ Retro หลายคันที่ใส่โป่งลักษณะนี้ พอวันหนึ่งได้สนใจและศึกษาเรื่องราวของ PORSCHE 911 ก็รู้สึกว่ารถมันมีตํานาน อย่าง 930 Turbo G-Series Impact Bumper หรือกันชนย่นปี 1980 คันนี้ เป็นรถที่ผ่านการโมดิฟายจากสํานัก RUF มาทั้งคัน ซึ่งผมชอบในความ ดิบ ก้าวร้าว ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของมัน อย่างเช่นเกียร์ก็มีแค่ 4 Speed เท่านั้น ลากกันยาวมากๆ เหมือนขับรถเกียร์ออโตเมติก เพราะไม่ต้องคอยเปลี่ยนเกียร์บ่อยสักเท่าไร เลยเป็นอะไรที่ผมรู้สึกมัน Old School มากๆ”

.

“หลังจากที่ได้มาแล้ว ก็ศึกษาแนวทางการตกแต่งในรูปแบบต่างๆ โดยดูจากตัวแข่งในยุค 80’s ในตอนนั้นตัว 935 Group 5 แรง ชื่อดัง และสวยมากๆ ในที่สุดก็มาหาข้อมูลเจอกับสํานัก RWB ซึ่งผมได้ลองเข้าไปศึกษาดูพอเห็น PORSCHE 930 ของ ‘นาไกซัง’ แล้วรู้สึกชอบมากเลยตั้งใจไว้ว่าจะต้องแต่ง 930 ให้คล้ายกับของเขาให้มากที่สุด และเมื่อ RWB THAILAND เปิดตัว ผมเลยจองคิวรอทําเลย ซึ่งคันนี้เป็น RWB คันที่ 9 ของเมืองไทย แต่เรื่องที่รู้สึกภูมิใจมากๆ คือคันนี้เป็น RWB 930 G-Series Impact Bumper คันแรกในโลกที่อยู่นอกประเทศญี่ปุ่น ซึ่งปกติแล้ว โซนทั่วโลกนอกจากญี่ปุ่นมักจะเอา 964 และ 993 มาแต่ง RWB เนื่องจากรถหาง่ายกว่า 930 ที่เข้าขั้นคลาสสิกไปแล้ว”

.

“คันนี้ผมแต่งด้วยชุดพาร์ทเดียวกับรถของ นาไกซัง เพียงแต่ทําให้มันมี Signature ของผมเองนิดหน่อย เช่น กันชนหลัง ผมก็เจาะเป็นรูปดาว พร้อมตะแกรง เพื่อที่จะระบายความร้อนจากเทอร์โบพร้อมช่องระบายลมออกจากโป่งล้อด้านหลัง ล้อเป็น SSR SP-1 ที่เป็นสเปกของ RWB ซึ่งเป็นล้อ Forged น้ําหนักเบามากๆ แต่ไม่ได้ใส่ขนาดใหญ่เท่ากับคนอื่น เป็นขนาดที่ผมรู้สึกชอบและลงตัวกับขนาดของชุดพาร์ทพอดี ส่วนสปอยเลอร์หลัง ผมยังคงเอกลักษณ์ Whale Tail หรือหางปลาวาฬที่เป็นเอกลักษณ์ของ 930 เอา ไว้ แล้วเสริมสปอยเลอร์ของ RWB เข้าไปให้ดูดุดันขึ้น”

.

มาถึงในส่วนของเครื่องยนต์ ปกติแล้ว 930 Turbo ในรุ่นปี 1978-1989 ก็จะเป็นเครื่องยนต์ 3.3 ลิตร ที่มีแรงม้าติดตัวมาถึง “300 PS” (รุ่นปี 1976-1978 จะเป็น 3.0 ลิตร 260 PS) เรียกว่าในยุคนั้นก็ถือว่าเป็น ‘อาวุธร้ายแรง’ แล้ว แต่เมื่อผ่านการโมดิฟายจาก RUF แล้ว ก็ยังไม่พอมือพอใจ คุณอู๋ ที่ต้องการความแรงแบบสุดโต่งอยู่ดี

.

“ในส่วนของเครื่องยนต์ ด้วยความที่เป็นเทอร์โบอยู่แล้ว ซึ่งผมได้เปลี่ยนส่วนหลักๆ เช่น ระบบหัวฉีด เปลี่ยนจากหัวฉีดกลไกของเดิมมาเป็นหัวฉีดไฟฟ้า ควบคุมด้วยกล่อง MoTec ส่วนเทอร์โบของเดิมเป็น KKK จากโรงงาน แต่ผมว่ามันมีอาการรอรอบ (Lag) มากเกินไปหน่อย ทําให้ขับไม่ค่อยสนุก เลยเปลี่ยนมาเป็นเทอร์โบแบบ Ball Bearing ซึ่งบูสต์จะมาเร็วกว่าเดิมมาก ทําให้การตอบสนองไว ขับสนุกขึ้น ส่วนอินเตอร์คูลเลอร์ยังคงของ RUF เช่นเดิม คันนี้มีแรงม้าอยู่ประมาณ 500 PS ซึ่งถือว่าแรงมากแบบดิบๆ ตรงตามความต้องการของผม”

.

“ในส่วนของระบบช่วงล่างจากเดิมจะเป็นทอร์ชั่นบาร์ที่เซตค่าได้น้อย ทาง RWB เลยเปลี่ยนเป็นแบบคอยล์สปริง พร้อมโช้คอัพของ Aragosta ที่เซตได้หลากหลายมากขึ้น ตามความต้องการของผู้ขับขี่ คันนี้ตอนแรกนาไกซังเซตความสูงมาเท่ากับรถที่ญี่ปุ่นเลย ซึ่ง Fitment มันสวยมาก แต่ผมก็คิดว่ามันจะขับขี่บนถนนเมืองไทยได้หรือ พอลองขับแล้ว รู้สึกเลยว่ามันใช่มาก ขับได้ไม่มีปัญหา มีความนุ่มนวล ไม่แข็งกระด้างจนเกินไป ส่วนระบบเบรกเป็น AP Racing ที่มีขนาดใหญ่เหมาะสมกับล้อ เบรกมั่นใจขึ้น และลิมิเต็ดสลิปผมใช้เป็นแบบ Spool Lock 100 เปอร์เซ็นต์ ถามว่าขับยากไหมยากขึ้นครับ แต่ตอนออกตัวหรือเปลี่ยนเกียร์นี่เหมือนโดน Kick in ออกไปเลย”

.

“ภายใน ผมยังคงส่วนที่เป็น RUF ไว้ เช่นเกจ์วัดที่ดูแล้วมีความพิเศษและดุดันกว่าเดิมเยอะ และสิ่งที่เปลี่ยนไปจากเดิม คือ พวงมาลัย เปลี่ยนเป็นของ MOMO PROTOTIPO (Prototype) เป็นสไตล์คลาสสิกตรงยุค หัวเกียร์ไม้ทรงกลมสไตล์ตัวแข่ง 917 เบาะนั่ง RECAROCS (Cross Sportster) ส่วนเครื่องเสียงคงไว้อย่างเดิม จริงๆ ก็คงไม่ค่อยได้เปิดฟังเท่าไรนัก เพราะเสียงเครื่องมันดังมาก”

.

นอกจากตัวรถที่คุณอู๋ภูมิใจ เพราะสะท้อนความเป็นตัวตนของเขาได้อย่างชัดเจนแล้ว ยังมีสิ่งหนึ่งที่เป็นความน่าประทับใจยิ่งกว่า… “การแต่งรถจาก RWB นั้น สามารถตอบสนองในสิ่งที่ผมอยากได้ โดยผ่านฝีมือช่างศิลปินระดับโลกอย่างนาไกซัง เนื่องจาก RWB เป็นรถ Customized เจ้าของรถจึงต้องมีการติดต่อพูดคุยกับเขา รวมถึงการคุยกับ RWB THAILAND เพื่อให้ผลงานออกมาตามความต้องการของเรา ผมมองว่า RWB ไม่ใช่แค่สํานักแต่งเท่านั้น แต่มันเป็นระบบเพื่อนและครอบครัว ให้ความช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ที่ประทับใจมากที่สุดเป็นตอนที่นาไกซังมาทํารถผม ระหว่างนั้นเจ้าของ RWB บางคนถึงกับลงมือช่วยเขาทํางาน รวมถึงการให้กําลังใจและแบ่งปันต่างๆ

.

RWB ผมมองว่าเป็นสํานักแต่งรถในฝันจริงๆ ครับ

Share