4S เป็นสิ่งที่ทำให้ 997 Carrera มีความน่าตื่นเต้นอีกระดับ ด้วยการยัดระบบขับเคลื่อนสี่ล้อให้กับเครื่องยนต์ 3.8 ลิตร มันจึงเป็นอีกรุ่นที่นักขับอยากลิ้มลองในสมรรถนะของมันอย่างไม่ต้องสงสัย
997 เป็นการกลับมาอีกครั้งของ 911 ที่มีไฟหน้าทรงกลมจากปลายปากกาของนักออกแบบ Grant Larson หลังจากที่มันเคยมีไฟหน้าทรงที่ผ่าเหล่าผ่ากอไปบ้างใน 996 ซึ่งมันทำให้ 997 ได้รับการตอบรับจากแฟน ๆ เป็นอย่างดีถึงการกลับมาของจิตวิญญาณ 911 แต่นั่นก็ยังไม่ทำให้หัวใจของคุณ “สุรเดช กิจพิทักษ์” ผู้หลงใหลในเสน่ห์รถเครื่องท้าย ต้องเต้นแรงเท่ากับตอนที่ได้ลองขับรุ่น Carrera 4 S ที่พกมาทั้งความแรงของเครื่องยนต์และการเกาะถนนที่ยอดเยี่ยม
“สมัยก่อนผมเล่นพวกรถโฟล์คสวาเก้นมาก่อน อย่างรถโฟล์คตู้ โฟล์คเต่า ซึ่งเป็นรถที่มีต้นกำเนิดเดียวกันกับ PORSCHE ทำให้ผมเริ่มซึมซับในวัฒนธรรมของรถเครื่องท้ายมาโดยตลอด รถพวกนี้มันเป็นรถที่ขับสนุกนะ มีแฮนด์ลิ่งที่เป็นเอกลักษณ์แบบไม่เหมือนใคร แล้วพอถึงจุดหนึ่งผมก็อยากขับ PORSCHE บ้าง
ตอนนั้นผมซื้อคันแรกด้วยรุ่นเริ่มต้นอย่าง PORSCHE BOXSTER รุ่นแรก (986) สีขาว มันเป็นรถเปิดประทุนที่ขับดีนะ แต่เสียอย่างเดียวห้องโดยสารมันร้อนมากเพราะมันเป็นเครื่องวางกลาง จนสุดท้ายผมก็ต้องกลับมาที่เครื่องวางท้ายอีก โดยการขยับขึ้นมาเล่นรุ่นใหญ่อย่าง 911 ดูบ้าง” เจ้าของธุรกิจขนส่งรายใหญ่ทั้งในและต่างประเทศกำลังเล่าให้ฟังถึงที่มาของความหลงใหลในรถ PORSCHE ที่เริ่มต้นมาจากรถร่วมสัญชาติ ก่อนจะมาเป็นน้องเล็กรุ่นเปิดประทุน ซึ่งปัจจุบัน BOXSTER 986 สีขาวคันนั้นยังเป็นโปสเตอร์แผ่นใหญ่ที่คุณสุรเดชตกแต่งไว้ในบ้าน ก่อนที่จะตัดสินใจกลับไปคบกับเครื่องยนต์วางท้ายอีกครั้ง แต่ครั้งนี้เป็นการหันไปคบหากับรุ่นใหญ่อย่าง 911
“ผมเริ่มสัมผัสกับ 911 คันแรกเป็นรุ่น 964 แต่ก็ใช้อยู่ไม่นานเพราะมันเป็นรถคลาสสิกที่ใช้งานลำบากนิดนึง ก็เลยเปลี่ยนมาเป็น 993 Targa สีเหลือง คันนี้ชอบมากเป็นรถที่รูปทรงสวย สีสวย ถามว่าขับสนุกไหม? มันขับสนุก แต่ว่าย้อนยุคไปหน่อย ช่วงล่างแข็ง ๆ พวงมาลัยก็หนัก ๆ ตามเทคโนโลยีในสมัยนั้น ถ้าเป็นตอนที่เรายังเป็นวัยรุ่นอ่ะโอเค ! มันก็เลยไม่ค่อยได้ใช้งาน ส่วนใหญ่ก็เลยจอดไว้เสียมากกว่า”
“แต่ผมก็ยังอยากที่จะขับ PORSCHE ในทุกวันอยู่แล้ว ก็เลยปรึกษากับคุณอาร์ม 911 assistant ซึ่งเขาก็เข้าใจในความต้องการและปัญหาของผม เขาบอกว่าถ้าอย่างนั้นคาแร็กเตอร์ของผม ไม่ใช่รถคลาสสิกแล้ว ก็แนะนำเป็น PORSCHE โมเดิร์นที่ใช้งานได้สะดวกสบาย ก็เลยได้ 996 มาครอบครองและผมก็เริ่มใช้อย่างจริง ๆ จัง ๆ ในทุกวันได้สมใจ
จนกระทั่งเมื่อประมาณปีที่แล้วผมมาเจอรถคันนี้เป็น 997 Carrera 4 S ที่ยังอยู่ในสภาพที่ดีมาก ผมก็เลยตัดสินใจได้อย่างไม่ยากนัก” คุณสุรเดชกำลังพูดถึงประวัติของ PORSCHE 997 สี Arctic Silver รุ่นขับเคลื่อนสี่ล้อคันนี้ให้เราฟัง ซึ่งตอนที่มันเปิดตัว PORSCHE คุยว่าระบบอิเล็กทรอนิกส์ที่ควบคุมระบบขับเคลื่อน 4 ล้อของ 997 นี้ดีกว่าที่เคยมีในก่อนหน้า ที่จะกระจายแรงบิดไปยังล้อหน้าแบบแปรผัน 5-40 เปอร์เซ็นต์ตามสภาพของผิวถนน สามารถส่งแรงบิดเพื่อการตอบสนองที่รวดเร็วกว่าเดิมและมีน้ำหนักไม่มากเหมือนรถขับเคลื่อนสี่ล้อรุ่นก่อน และ Carrera 4 S คันนี้ยังคงเป็นผลผลิตที่ประสบความสำเร็จอย่างมากกับการแต่งหน้าแต่งตานิดหน่อยแล้วแปะโลโก้ S ลงไปทำให้มันดูน่าสนใจขึ้นอีกเป็นกอง
Porsche Traction Management ปรัชญาหลักสำหรับรถ PORSCHE ที่ใช้งานระบบขับเคลื่อนสี่ล้อจะเหมือนกัน คือความขับขี่อย่างเหนือชั้นที่ปลอดภัยเพิ่มขึ้น นี่คือเหตุผลที่ปอร์เช่พัฒนาระบบขับเคลื่อนล้อขับเคลื่อนสี่ล้อเรื่อยมา 997 Carrera 4 S มันสามารถกระจายแรงบิดระหว่างเพลาด้านหน้าและด้านหลังอย่างแข็งขันและรวดเร็วมาก มันไม่ใช้การขับเคลื่อนสี่ล้อตลอดเวลาเพราะนั่นจะทำให้มันกินน้ำมันมหาศาล แต่การตรวจสอบสถานะการขับขี่อย่างต่อเนื่องผ่านระบบ PTM ( Porsche Traction Management ) จะประเมินข้อมูลทั้งหมดจากเซนเซอร์ตรวจจับความเร็วของล้อทั้งสี่ตลอดจนองศาการหมุนของพวงมาลัย จะช่วยปรับการกระจายของแรงขับไปยังเพลาหน้าได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ เพื่อรองรับสถานการณ์การขับขี่ที่แตกต่างกัน ตัวอย่างเช่นถ้าล้อหลังมีความเสี่ยงต่อการหมุนฟรีเมื่อเร่งคันเร่งเต็มที่ แรงขับเคลื่อนจะถูกแบ่งไปยังล้อคู่หน้า หรือในขณะโค้งแรงขับก็จะถูกกระจายไปยังล้อหน้าด้านที่อยู่นอกโค้งมากหน่อยเพื่อสนับสนุนอาการของมัน นี่คือจุดที่ความสามารถในการเร่งความเร็วของ PORSCHE ตะกายสี่ล้อกับระบบ PTM นั้นสวยงามมาก
ไม่ใช่แค่เพียงหน้าตาภายนอกที่เปลี่ยนไป มันยังมาพร้อมกับการเพิ่มความจุจาก Carrera S รุ่นปกติที่ใช้เครื่องยนต์ 3.6 ลิตร 325 แรงม้า มาเป็นเครื่องยนต์ 3.8 ลิตร การปรับแต่งให้กับ Carrera 4 ในครั้งนี้ ทำให้พลังของมันมีให้ใช้อย่างเหลือเฟือถึง 360 แรงม้า ผ่านระบบส่งกำลังที่มีให้เลือกทั้ง เกียร์ธรรมดา 6 speed และ 5 speed Tiptronic อย่างในคันนี้ ระบบท่อไอเสียสปอร์ต และช่วงล่าง PASM ถูกบรรจุมาให้เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน
โดย PASM เป็นระบบช่วงล่างที่ทำงานแตกต่างกันไปในแต่ละความเร็ว โดยจะลดความสูงลง 0.4 นิ้ว เพื่อประโยชน์เรื่องอากาศพลศาสตร์ และในแพคเกจเสริมที่อัพเกรดช่วงล่างแบบสปอร์ตสามารถลดความสูงของช่วงล่างลงไปได้ถึง 0.8 นิ้ว ระบบเบรกก็ยกเอามาจาก 911 Turbo รุ่นขับเคลื่อนสี่ล้อมีการขยายฐานล้อหลังให้กว้างขึ้น 22 มิลลิเมตร เพื่อรับกับล้อแม็กขนาด 19 นิ้ว ที่รัดยางไซส์ 305 ในคุ่หลัง เพื่อรองรับระบบขับเคลื่อนสมรรถนะสูง การขยายโป่งหลังแบบนี้ทำให้มันมีลุคที่ดูคล้ายกับรุ่น Turbo เพียงแต่จะไม่มีช่องดักลมขนาดใหญ่ตรงหน้าล้อหลัง
“ผมชอบท้ายของมันที่มีโป่งเมื่อมองจากด้นท้ายคล้ายกับผู้หญิงที่มีรูปทรงสะโพกที่ดูเซ็กซี่ และการที่เป็นรถขับเคลื่อนสี่ล้อ มันจึงมีอัตราเร่งที่เร็วกว่ารถขับเคลื่อนสองล้อ การยึดเกาะถนนของมันในโค้งนี่ดีมาก เวลาที่เราเร่งออกจากโค้งมันก็สามารถกระโจนออกไปได้อย่างรวดเร็ว แฮนด์ลิ่งที่มูฟได้ไวตามเทคโนโลยีของมันทำให้การใช้งานทุกวันจากบ้านแถวบางนาไปทำงานแถวดินแดง ผมสามารถสนุกไปกับมันได้ตลอดเวลา”
ในวงจรของ 911 ที่มีทั้งหมด 7 รุ่น คุณสุรเดชครอบครองมาเกินครึ่งแล้ว เราจึงพูดกันถึงอะไรที่เป็นเสน่ห์ของเจ้ากบเยอรมันรุ่นนี้ที่ทำให้คุณสุรเดชใช้ผ่านมือถึง 4 รุ่นด้วยกัน “พอได้มาสัมผัสผมว่า 911 มันเป็นรถสปอร์ตที่สามารถขับใช้งานได้ทุกวัน โดยเฉพาะรุ่นโมเดิร์นที่มีเทคโนโลยีต่าง ๆ นานามาช่วยให้มันขับได้สะดวกสบาย และควบคุมง่าย ทำให้เราสามารถสนุกไปกับมัน ซึ่งนั่นก็หมายความรวมถึงการเป็น รถสปอร์ตสมรรถนะสูง ขนาดกะทัดรัดที่ไม่ยุ่งยากในการดูแล มีแฮนด์ลิ่งดี ซึ่งยังไงซะเอกลักษณ์ของ PORSCHE ก็ต้องเป็นหน้าตากบอย่าง 911 นี่แหล่ะ”
ปัญหาอย่างหนึ่งหากคุณอยากเป็นเจ้าของ 997 สักคัน คุณอาจพบได้ถึงความล้มเหลวของ IMS Bearing ที่ฉาวโฉ่และมีค่าใช้จ่ายสูงของ 997 ในยุคแรก (รวมถึง 996 ด้วย ) มันอาจส่งผลให้เป็นภัยพิบัติกับเครื่องยนต์ อย่างไรก็ตามการแก้ปัญหาด้วยการเปลี่ยนมาใช้แบริ่งคุณภาพดีที่ผลิตขึ้นมาทดแทนในช่วงหลัง ซึ่งคุณจะมั่นใจได้ว่าส่วนใหญ่สามารถแก้ปัญหาในกรณีนี้ได้ ดังนั้นอย่าไปกังวลกับเรื่องนี้หาก 997 ที่คุณกำลังมองหาเปลี่ยนมันมาแล้ว หรือมันเป็น 997 รุ่นปีท้าย ๆ
แล้วนี่จะเป็นรถที่มอบประสบการณ์ในการขับขี่ยุคใหม่แบบร่วมสมัย ที่ยังคงความรู้สึกของความเป็น 911 รุ่นดั้งเดิม โดยที่ไม่รู้สึกว่ามันย้อนยุค ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อไร้ซึ่งเทคโนโลยีตัวช่วยทั้งหลายในการขับขี่ ที่จะมาจุ้นจ้านกับคนขับมากเกินไป ทำให้หลายคนมองว่ามันคือ 911 อะนาล็อกรุ่นสุดท้าย แต่มันก็คือเสน่ห์อีกอย่างที่นักขับหลายคนต้องการ
_
บทความโดย กองบรรณาธิการ
นิตยสาร GTPORSCHE ฉบับที่ 39
Leave a Reply