เติมน้ำมัน 15 นาที

การขับรถในภูเขาที่อับสัญญาณโทรศัพท์และน้ำมันใกล้จะหมดเต็มทีเริ่มถึงจุด critical ผมรู้สึกว่าไฟแดงที่ขึ้นเตือนว่าน้ำมันกำลังจะหมดใกล้จะดับพร้อมไปกับรถคันนี้ ผมเริ่มวอบอกคนอื่นไหนกลุ่มว่าผมกำลังจะไปต่อไม่ไหวแล้ว สักพักใหญ่คันข้างหน้าสุดเลยบอกผมว่าข้างหน้าด่านเดียวเค้าจะช่วยจอดถามเจ้าหน้าที่ป่าให้ และคำตอบที่ได้คือ แถวนี้มีปั๊มน้ำมันแบบหยอดเหรียญอยู่ซอยเล็กหลังด่าน ให้ผม u turn และขับขึ้นไปบนเขาในทางเล็กแคบๆ ซึ่งผมก็ขับขึ้นไปเรื่อยๆแต่ยังไม่เห็นเจออะไรนอกจาก Motorcyle ชาวบ้าน พวกเค้าก็คงงงว่าผมมาทำอะไรบนนี้

ผมคลานไปเรื่อยๆและบอกตัวเองว่าถ้ามี motorcycle แสดงว่าแถวนี้ต้องมีน้ำมันแน่นอน ทว่าขับไปเท่าไหรก็ยังไม่เจอ จนกระทั่งผมเห็นบ้านหลังนึงมีคน ยืนอยู่หน้าบ้านผมเลยถามว่าแถวนี้เติมน้ำมันได้ที่ไหนครับ เค้าก็ตอบผมว่าที่บ้านหลังนี้แหล่ะให้ผมถอยรถเข้าไปจอด ผมพูดเลยตอนนั้นผมไม่แน่ใจว่าในบ้านหลังนั้นจะมีตู้น้ำมันจริงๆหรือเปล่า เพราะปกติเราจะเติมน้ำมันก็ควรจะต้องเป็นปั๊มเล็กๆใช่ไหมครับ แต่นี่น้ำมันเล่นเข้าไปอยู่ในบ้านเลย ผมทำใจอยู่สักพักและค่อยค่อยตั้งลำถอยรถเข้าไปในบ้านหลังนั้นตามที่เค้าบอก ผมจึงได้เจอตู้น้ำมันเล็กๆตัวหนึ่งที่เอาไว้ใช้หยอดเหรียญจริงๆ เค้าถามผมว่าผมอยากจะเติมเท่าไหร่ ผมบอกเขาว่า 1000 บาท เค้าทำหน้างงแล้ววิ่งเข้าไปในบ้าน มาทราบที่หลังว่า ที่ต้องเข้าไปในบ้านเพราะต้องปลดล็อคตู้น้ำมันด้วยตัวเองเนื่องจากว่าพวกเรามีเหรียญไม่พอ และสิ่งที่ผมนึกไม่ถึงก็คือว่าเนื่องจากตู้น้ำมันนี้เป็นตู้หยอดเหรียญ การเติมน้ำมันมูลค่า 1000 บาทจึงเป็นการเติมน้ำมันที่นานมากกกกกกกกกกกกกกกกกกก ประมาณ 15 นาทีได้

พอเติมเสร็จ ผมรีบขับออกจากซอยกลับเข้าไปผ่านทางด่านและหวังว่าจะตามกลุ่มด้านหน้าได้ ผมขับอยู่คนเดียวอยู่พักใหญ่แต่คราวนี้ผมไม่ได้ขับรถ อยู่ในโหมดประหยัดน้ำมันอีกต่อไปผมเปลี่ยนมาเป็น sport และ sport plus เลย เพราะถนนในช่วงนี้ดีมากๆโค้งหักศอกของแรมทางเรียบวิวสวยเป็นทุกอย่างที่พวกเราต้องการและตอนนี้ผมมีน้ำมันอยู่ 1000 บาทผมไม่กลัวอะไรอีกต่อไป ผมรู้สึก connect กับ 991 ของผมอีกครั้งทันที จูนใหม่ ท่อใหม่ เกียร์ใหม่ โอ๊ยอะไรจะลงตัว เสียงเพราะ ก้องในกลางหุบเขา สนุกมากๆขับให้หายคิดถึง หายอยาก

ผมอัดรถอย่างเมามันส์ อยู่พักใหญ่และได้เห็นรถพี่ต้นจอดอยู่ข้างทางบนภูเขาเพื่อหยอดตังค์เติมน้ำมันหลอดอยู่ และตอนนั้นเองผมก็เริ่มสังเกตน้ำมันบนหน้าจอรถผมว่าแท้ที่จริงแล้ว 1000 บาทที่เราเติมในปั๊มทั่วไปมันต่างจาก 1000 บาทในปั๊มหลอดที่อยู่ในบ้านบนภูเขาแบบนี้แท้ที่จริงแล้วน้ำมันผมไม่ได้เหลือเยอะขนาดนั้นเลยการให้พี่ต้นและจอน้ำมัน เป็นการเตือนสติผมให้ไม่ต้องขับรถอย่างสนุกขนาดนั้นก็ได้ เพราะแท้ที่จริงแล้วผมก็ยังไม่รู้เลยว่าทางออกอยู่ตรงไหนอีกไกลไหมและโรงแรมจะถึงเมื่อไหร่ ผมจึงค่อยค่อยปรับโหมดการขับรถ

ตอนนี้ทางเริ่มแคบลงแล้วถนนก็อยู่ในป่าชื้นในหุบเขามากยิ่งขึ้นผมขับรถชมวิวไปเรื่อยเรื่อยและไม่นานผมก็เห็นกลุ่มรถกลุ่มหน้าจอดเรียงรายกันอยู่เต็มข้างทางสีสันสดใสมากแต่คาดว่าจิตใจทุกคนคงรุมเร้าเหมือนตอนที่น้ำมันผมใกล้หมดเต็มที ผมดีใจมากที่ได้เจอพี่พี่ทุกคนผมรีบจอดรถข้างทางได้ลงไปทักทายว่าทุกคนทุกคันเป็นอย่างไรบ้างหนึ่งในนั้นมีคุณพ่อของผมอยู่ด้วยแน่นอนที่สุดทุกคนกำลังต่อแถวที่กำลังจะเติมน้ำมันจากตู้หลอดเล็กๆและค่อยค่อยเติมกันทีละนิดเพราะแต่ละครั้งแต่ละคันจะใช้เวลานานมาก

อีกไม่นานรถของพี่เต้นที่จอดเติมน้ำมันข้างทางก่อนหน้านี้ก็ได้ตามมาจอยกับกลุ่มนี้ทันเวลาที่กำลังเติมน้ำมันกันอยู่เราจึงถือโอกาสถ่ายรูปเล่นระหว่างรอก็เป็นความสนุกไปอีกแบบตามสไตล์ Renndrive ที่เราไม่รู้จริงๆว่าวันนี้จะเกิดอะไรขึ้นน้ำมันจะมีไหมห้องน้ำจะมีหรือเปล่าหรือจะต้องข้างทางและนี่แหละคือสีสันของการเดินทางของพวกเราและมีความทรงจำที่ดีที่สนุกที่คอยบอกเราต่อคอยหัวเราะเวลาที่มันผ่านไปแล้วแต่ณตอนนั้น ที่เราไม่รู้จริงๆว่าวันนี้จะเกิดอะไรขึ้นน้ำมันจะมีไหมห้องน้ำจะมีหรือเปล่าหรือจะต้องข้างทางและนี่แหละคือสีสันของการเดินทางของพวกเราและมีความทรงจำที่ดีที่สนุกที่สามารถเล่าต่อและหัวเราะไปกับมันได้ เพราะไม่ว่าจะยังไงเราก็ต้องหาวิธีเอาตัวรอดให้ได้  Renndrive: no one gets left behind ! (if you are fast enough…)

บทความโดย คุณท็อป
นิตยสาร GTPORSCHE ฉบับที่ 46

 

Share

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *