Yes I love Porsche, especially 911!

ใช่ครับผมชอบ 911 มากครับ !

และ renndrive northern expedition 7 ก็ถือว่าเป็นการคอนเฟิร์มว่าไม่ว่าจะ 911 รุ่นไหนก็ขับสนุกหมด ถึงแม้ว่าทริปนี้จะเป็นทริปที่ 7 แล้วก็ตาม ถนนเมืองไทยโดยเฉพาะภาคเหนือทุกโค้งขับขี่สนุกสุดๆ ครั้งนี้เราเริ่มเดินทางออกจากแม่สอดไปยังน่านพะเยาและจบด้วยเชียงใหม่

เราขับกันประมาณ 1,400 กว่า กิโล มีทั้งโค้งยาวความเร็วสูงและโค้งสั้นสั้นที่สนุกมากๆแม้ความเร็วจะไม่มากก็ตามแต่ได้เสียวและสนุกกันตลอดทางทุกวันเลยครับ และคราวนี้พิเศษมากเพราะเรามีแขก VIP จาก Curves Magazine ที่มาร่วมทริปกับ Renndrive ในครั้งนี้ผมเลือก 991 สีเหลืองไป และมีการเตรียมการด้วยการส่งรถไป service ก่อน เพราะผมอยากให้รถพร้อมที่สุด และแอบรู้สึกว่ารถขับแปลกๆไปเหมือนจะวิ่งไม่ค่อยออก สรุปหลังจากไปเช็คมาเลยเจอว่าอาการนี้เกิดขึ้นเพราะรถไม่ค่อยได้ขับและ battery ไม่เต็มและยางก็เริ่มเก่าและแข็ง (ข้อนี้ควรสังเกตดูนะครับสำหรับคนที่ไม่ค่อยได้เอารถออกไปวิ่งนะครับ)

สุดท้ายผมตั้งสินใจเปลี่ยน battery และ เปลี่ยนยางทุกเส้นก่อนออกทริปเลย ส่วนยางผมเปลี่ยนเป็น Michelin PS4S เพราะตัวนี้เป็นตัวใหม่ที่เค้าว่าดีกว่าเดิมนะครับ ยอมรับกว่าก่อนผมไม่มีโอกาสได้ลองรถก่อนยกขึ้นไปเหนือเลยครับ ผมเลยได้ขับอีกทีก็ที่เหนือเลยครับ

ดังนั้นวันแรกที่ผมบินไปรับรถผมแอบตื่นเต้นเพราะไม่ได้ขับคันนี้นานแล้วและกลัวว่าจะขับเค้าไม่เป็นอีกแล้วเพราะ 1 อาทิตย์ก่อนผมพึ่งไปออก trip กับรถเครื่องวางกลาง (ขอสงวนพาดพิงยี่ห้อนะครับ) เลยเกรงว่าจะไม่ชินกับคันนี้ เลยตั้งใจว่าตอนเช้าจะค่อยๆขับทำความรู้จักเค้าก่อน

เท่านั้นแหละ u turn แรก ตูดปัดเลยครับ 555 มองไปข้างหลังซึ่งคือพี่ก้อง หนึ่งใน contributor ของเราเช่นกัน ขับ 991.2 gt3 ก็ปัดเหมือนกัน ที่ขำก็เพราะ อาทิตย์ก่อนก็ไปทริปเดียวกันครับ เหมือนว่า เรา 2 คนจะยังไม่ชินกับ 911 หรือ เครื่องวางหลังในวันแรก แต่พอเราขับไปเรื่อยๆระหว่างวันเราเริ่มจะอารมณ์และความรู้สึกของรถได้ก็เริ่มสนุกขึ้นเรื่อยๆ และ ในที่จริงเหตุผลที่รถปัดๆส่วนนึงและ ผมว่าน่าจะเป็นเหตุผลหลักๆก็น่าจะเป็นเพราะ อุณหภูมิของยางยังไม่ได้ที่และยางเองก็ใหม่มากๆเพราะพึ่งเปลี่ยนมาเลย และวันก่อนได้มีคุยกับ ผู้เชี่ยวชาญยางเค้าแนะนำว่า PS4S ควรเติมยางให้แข็งขึ้นอีกหน่อยเพราะตัวนี้นิ่งกว่าเดิม

ดังนั้นหากชอบเกาะเกาะแข็งแข็งควรเพิ่มอีกสัก 1-2 ปอนด์ได้ครับ วันนั้นทั้งวันผมสนุกมากเลยครับ มาถึงวันที่สองนิยิ่งสนุก ถนนที่ขับดีมากๆครับ มีทั้ง high speed โค้งเล็กโค้งใหญ่และถนนก็กว้างพอสมควร จึงทำให้รู้สึกว่าทั้งสนุกและปลอดภัย แต่พอมาถึงตอนบ่ายรถเริ่มรู้สึกว่าแอร์ไม่ค่อยเย็น เริ่มจะเย็นน้อยจนมาถึงร้อนมากถึงขนาดต้องยอมเปิดหน้าต่างพร้อมกับใส่หน้ากากขับรถเพราะ ฝุ่นที่นั่นไม่น้อยกว่ากรุงเทพเลยครับ ตอนแรกผมว่าจะขอเข้าโรงแรมก่อนเพราะปั๊มสุดท้ายอยู่

ในตัวเมืองใกล้โรงแรมแล้ว แต่ก็เลยตามเลยขับขึ้นเขาไปจุดสูงสุดที่เค้าว่ากับว่าสวยมากเหมือนได้ขับรถบนหมอกเมฆนอกจากนั้นเราก็กะจะเอาใจแขก VIP จากทาง curves magazine ด้วยเส้นทาง epic ในไทยให้เค้า ได้สัมผัสกัน แต่กว่าจะขึ้นไปถึงจุดชมวิว เราต้องผ่านถนนที่แคบและชันมากๆ ส่วนของผมมีของแถมอีกอย่างคือความร้อนที่มาจากแอร์ที่น่าจะเสียแล้ว ซึ่งผมคิดว่าผมจะทนขับรถไปถึงเย็นนี้แล้วให้ทีมเซอร์วิสช่วยดูอาการที่โรงแรม แต่หลังจากแอร์ผมร้อนได้พักนึง น่าจะประมาณกลางเขาผมก็สังเกตว่าความร้อนรถผมขึ้น และได้ วอ ถามคันหลังที่ตามผมมา พี่เค้าบอกว่ารถผมเริ่มมีน้ำออกมา

ผมเลยตัดสินใจจอดรถข้างทางและดับรถ ดูจากอาการเวลาและสถานการณ์แล้ว ต้องสละรถและจอดทิ้งไว้ข้างทางเพื่อรอทีม service ขึ้นมาดูอาการต่อ ผมจึงขึ้นรถพี่โรจน์ (คุณพ่อผม) ไปที่จุดชมวิวตามที่เราทุกคันได้นัดกันไว้ ระหว่างทางผมชั่งใจและได้คิดว่าหากรถผมขับต่อได้ยังไงแอร์ผมก็ต้องไม่มีใช่อีก 2 วันอยู่ดี ผมจึงโทรหาคน slide รถให้ยก 997 จาก กทม ขึ้นมาที่น่านเพื่อสลับกับ 991 กลับไป กทม และนี่คือเหตุการณ์ที่เราสามารถพลิกวิกฤติเป็นโอกาส ทำให้เราได้ขับ 911 ถึง 2 คันในทริปเดียว

ดังนั้นในฉบับหน้าผมจะมาอธิบายและเปรียบเทียบระหว่างการขับขี่ของ 997 vs 991 แบบ back to back ซึ่งระหว่างการขับรถทั้ง 2 คันยังทำให้ผมประหลาดใจมากเพราะถึงทุกวันนี้ผมยังตอบไม่ได้ว่าคันไหนดีกว่าคันไหน … ผมจะมาเล่าให้ฟังว่าทำไมนะครับ