Greatest RS – วสิษฐ แต้ไพสิฐพงษ์

ช่วงที่ 997.2 GT3 RS ออกมาใหม่ หลายคนก็บอกว่ามันคือสุดยอดรถรุ่นพิเศษที่ทำมาเพื่อปิดฉากให้กับ 997 จนกระทั่ง Andreas Preuninger ผู้อยู่เบื้องหลังรถ GT ทั้งหลายของ PORSCHE สร้างเซอร์ไพรส์ด้วยตัวเลข 4.0 ที่กำกับต่อท้ายคำว่า RS เพื่อให้มันพิเศษยิ่งขึ้นไปอีก แต่ทว่าพวกมันถูกผลิตขึ้นมาเพียง 600 คัน!

เราต้องตื่นเต้นอีกครั้งเมื่อประตูรั้วไม้บานใหญ่ของบ้านย่านแจ้งวัฒนะถูกเปิดออกเพื่อต้อนรับเราอย่างอบอุ่นอีกครั้งจาก คุณวสิษฐ แต้ไพสิฐพงษ์ ซึ่งเขาเป็นอีกคนที่ต้องใช้คำว่าคลั่งไคล้ในรถ PORSCHE อย่างเข้าเส้น นับถอยหลังไปช่วงสิบปีที่ผ่านมาโรงจอดรถในพื้นที่บ้านของเขาไม่เคยมีช่วงเวลาไหนที่จะไม่มีรถ PORSCHE จอดประจำอยู่ อันที่จริงทีมงาน GT PORSCHE เคยได้มาเยี่ยมชมบ้านหลังใหญ่ที่ร่มรื่นไปด้วยไม้นานาพรรณแห่งนี้แล้วครั้งหนึ่ง เมื่อครั้งมาถ่ายทำบทความระหว่างคุณวสิษฐและรถ PORSCHE 930 TARGA สีแดงของเขาเมื่อหลายปีก่อน

โดยทั่วไปแล้วในวงการธุรกิจจะทราบกันดีถึงกิจกรรมยามว่างของคุณวสิษฐ ที่ชื่นชอบกีฬากอล์ฟเป็นพิเศษ แต่อีกมุมหนึ่งเขายังมีช่วงเวลาแห่งความสุขที่โปรดปรานไปกับเครื่องจักรแห่งการขับขี่จากเยอรมันมากว่าสิบปีโดยส่วนตัวผมเป็นคนชอบรถ และก็ชอบความเร็วอยู่แล้ว จุดเริ่มต้นของผมกับ PORSCHE ก็คือผมได้รับเชิญไปร่วมงาน PORSCHE World Road Show ที่สนามพีระเซอร์กิต ทำให้ประทับใจในสมรรถนะของรถสปอร์ตเครื่องวางท้ายตั้งแต่นั้นมา ประกอบกับผมก็รู้จักกับคุณช้าง ทัชชะ ชัยปาณี ประธานกลุ่ม PORSCHE CLUB THAILAND เป็นอย่างดี ก็ได้รับคำแนะนำจากคุณช้างด้วย เลยตัดสินใจเป็นเจ้าของ PORSCHE คันแรก เป็น 997 Carrera 4S สี Macadamia Metallic ซึ่งมันเป็นรถที่ดีมาก เป็นรถที่สเป็คดี ออฟชั่นเยอะ และด้วยความที่เป็นรถยุคใหม่แบบ Water-Cooled ก็สามารถใช้งานและดูแลรักษาได้ง่าย” 

เมื่อรถ PORSCHE คันแรกมอบประสบการณ์ที่ดี ความชอบของเขาจึงเหมือนฟองน้ำที่ค่อย ซึมซับเอารายละเอียดการขับขี่ที่ดี เป็นแรงบันดาลใจในการซื้อ PORSCHE คันที่สองและที่สามพอเริ่มซื้อคันที่หนึ่งก็เลยรู้สึกว่าเราอยากจะทำความเข้าใจกับรถ PORSCHE มากขึ้น ก็เลยเริ่มสมัครสมาชิกหนังสือ และสั่งซื้อของออนไลน์มาเพื่อทำการศึกษา เรียกว่าตอนนั้นบ้ามาก ก็เลยทำให้มีข้อสงสัยว่ารถ Water-Cooled ที่เราขับอยู่นี้กับความเป็นรถ Air-Cooled แบบคลาสสิคนั้นมันเป็นยังไง ซึ่งอันที่จริงผมไม่มีประสบการณ์เกี่ยวกับรถ Air-Cooled มาก่อนเลย ได้แต่อ่านจากหนังสือล้วน   ก็เลยหารถ Air-Cooled จนเป็นที่มาของ 964 Carrera4 เกียร์แมนน่วลมาเป็นคันที่สอง  ก็รู้สึกเลยว่ามันมีคาแร็คเตอร์ที่ต่างกันชัดเจนระหว่างรถ Air-Cooled และ Water-Cooled ยิ่งทำให้ประทับใจในเสน่ห์ของ PORSCHE มากขึ้น ความรู้สึกในการขับรถรุ่นเดียวกัน หน้าตาคล้ายกัน แต่ปีต่างกัน มันทำให้เราเอนจอยกันคนละแบบ ทำให้เราอยากเข้าใจ อยากจะศึกษาอะไรต่าง ใน PORSCHE แต่ละรุ่นให้มากขึ้น

ทุกสิ่งในโลกมันต้องมีการพัฒนาและ PORSCHE ก็ไม่เคยอยู่นิ่งอยู่แล้ว การเปลี่ยนจากเครื่องยนต์ Air-Cooled มาเป็น Water-Cooled ก็เป็นเรื่องของการเปลี่ยนแปลงตามเกมส์ ตามตลาด ตามกฏระเบียบอะไรต่าง ทำให้คาแร็คเตอร์มันเปลี่ยนไปตามยุคสมัย ซึ่งก็ต้องเข้าใจเขา แต่ไม่ว่าอย่างไร ในแต่ละช่วงเวลาไม่ว่า PORSCHE จะทำอะไรออกมา ผมว่ามันเป็น Best in the Time ทีนี้การที่เราจะได้รู้ว่าสิ่งที่ดีที่สุดในยุคนั้นมันคืออะไร มีทางเดียวที่จะตอบโจทย์ก็คือการได้ขับมันจนถึงปัจจุบันเขาสัมผัส PORSCHE มาแล้วถึงเจ็ดคัน ซึ่งคอลเลกชันของเขาตอนนี้ก็มีทั้ง Cayenne S e-Hybrid และ 911 อีกสองคัน และครั้งนี้เรารู้สึกภูมิใจอย่างมากที่จะได้นำเสนอรถ PORSCHE 911 คันโปรดของเขา ซึ่งเป็น 911 รุ่นที่เครื่องยนต์มีความจุมากที่สุดเท่าที่ PORSCHE เคยผลิตมาให้กับรถถนน 911 ใช่แล้ว! มันคือ PORSCHE GT3 RS 4.0 

ถ้าจะบอกว่า RS เป็นสุดยอดของสายเลือด 911 เวอร์ชั่นรถถนนที่เข้าใกล้รถแข่งก็คงจะไม่มีข้อโต้แย้ง โดยครั้งแรกที่ชื่อของ RS ถูกกำกับมาให้กับรถ PORSCHE มันถูกทำมาเพื่อวัตถุประสงค์เดียวคือการให้มันสามารถผ่าน Homologate สำหรับเข้าร่วมการแข่งขันเท่านั้น โดยที่ยังไม่รู้ว่าอนาคตของมันจะเป็นอย่างไร เวลาผ่านไป ชื่อของ RS ที่ย่อมาจาก RennSport ถูกประดับขึ้นมาบนรถที่มีความพิเศษเฉพาะ บ่งบอกถึงการเป็นรถที่เพียบพร้อมไปด้วยสมรรถนะน้ำหนักเบา อารมณ์การขับขี่ที่ดิบ แบบรถแข่งนี่แหล่ะที่จะมอบประสบการณ์ในการขับขี่แบบ RS ที่แท้จริง และมันยังพร้อมที่จะให้คุณพาไปลงแทร็คได้ทันทีที่คุณต้องการ

 

และเป็นเรื่องปกติที่คุณวสิษฐผู้หลงใหลในรถ PORSCHE อยู่แล้วต้องถ่ายทอดความสนใจให้กับรถเวอร์ชั่นพิเศษของทางค่ายแบบนี้คันนี้ถือเป็นรถที่ผมโชคดีมาก คือตอนนั้นจะเรียกว่าบ้าแบบพีคสูงสุดเลยก็ได้  โดยตอนนั้น 997 มีเวอร์ชั่น GT3 RS Mk.2 อยู่แล้ว และเสียงพูดทั่วไปก็กล่าวว่ามันเป็นรุ่นสุดท้ายของ 997 แต่ในใจลึกๆ ผมคิดอยู่แล้วว่ามันต้องไม่ใช่รุ่นสุดท้าย และไม่นานก็ทราบข่าวว่า PORSCHE จะออกรถ 997 รุ่นพิเศษ รุ่นหนึ่ง ซึ่งในตอนแรกรู้แค่ว่าจะเป็น 997 GT3 RS  แต่ไม่เคยเห็นรูป ไม่เคยเห็นสเป็ค ไม่เคยรุ้อะไรเกี่ยวกับรถคันนี้เลย ไม่รู้ว่ามันจะออกมาเป็นแบบไหนด้วยซ้ำไป ด้วยความที่เราบ้ามากเกิน คือยังไงก็จะเอาให้ได้ ก็ไปจองกับ AAS เลย ทั้ง ที่ในหัวยังไม่รู้เลยว่า GT3 RS รุ่นที่พัฒนาแล้วหน้าตามันจะเป็นยังไง ยังคาดหวังไว้ว่ามันจะมีโป่งเย็บแบบโหด เลยหรือเปล่า จนกระทั่งแฟรงเฟิร์ตมอเตอร์โชว์ก็มีข่าวว่าจะมีการเปิดตัวเจ้ารถรุ่นนี้ ผมกับเพื่อน ก็เลยตัดสินใจบินไปดูตัวจริงกันตอนเปิดตัวเลย ซึ่งก็เจอรถรุ่นนี้จอดโชว์อยู่ พร้อมกับชื่อ ‘GT3 RS 4.0’ ซึ่งแน่นอนว่ามันเป็นรถที่มีคาแร็คเตอร์ชัดเจน แต่ตอนนั้นเป็นการปรากฏตัวครั้งแรก เราก็ไม่รุ้ว่ามันจะดีไม่ดียังไง หลังจากนั้นก็เริ่มมีข้อมูลออกมาเพิ่มมากขึ้น เริ่มมีเสป็คก็เลยทำให้เรารู้สึกว่ารถคันนี้เป็นรถที่ให้เสป็คมาสูงมากๆ มีความเป็นตัวของตัวเองมากๆ  เปรียบเทียบความรู้สึกส่วนตัวผมรู้สึกว่าคันนี้เป็นรถคันหนึ่งที่ PORSCHE ตั้งใจทำมาก และออกแบบทุกอย่างที่ให้มาอย่างดีที่สุด

ในตระกูล 911 ด้วยกัน ตระกูล GT3 RS เนี่ยเป็นรถที่เรียกว่าใกล้รถแข่งเข้าไปมากขึ้น ด้วยคาแรคเตอร์พื้นฐานของการเป็นรถ LightWeight ที่ทำให้รถเบาลง ทำแรงม้าให้เพิ่มขึ้น ยังคงมอบประสบการณ์อันเป็นเอกลักษณ์ที่คุณจะรู้สึกได้อย่างชัดเจนเมื่อได้อยู่หลังพวงมาลัย และเพื่อเป็นการส่งท้ายโมเดล 997  ทีมวิศวกรของ PORSCHE ได้ทิ้งทวนอย่างสมศักดิ์ศรีด้วย GT3 RS 4.0 เหมือนหมัดเหล็กในถุงมือกำมะหยี่ ภายใต้เรือนร่างที่ดูไร้พิษสงมันใช้บล็อกเครื่องยนต์ 6 สูบ จาก MEZER เป็นรุ่นสุดท้ายที่ใช้รหัสเครื่องยนต์ M ที่อาศัยอานุภาพของเพลาข้อเหวี่ยงจากตัวแข่ง RSR ที่ยืดระยะชักจาก 76.4 มิลลิเมตรในเครื่อง 3.8 ลิตร มาเป็น 80.4 มิลลิเมตร ทำให้มีความจุ ‘4.0 ลิตรอันเป็นที่มาของตัวเลขที่ต้อท้ายชื่อรุ่นพิเศษนี้ การจัดการกับระบบดูดอากาศด้วยท่อทางเดินไอดีและไอเสียจากรถแข่ง เพื่อให้การโฟลว์นั้นดีขึ้น เป็นผลให้แสดงแสนยานุภาพออกมาได้ถึง 500 แรงม้า นั่นหมายความว่ามันสร้างกำลังได้ถึง 123.25 แรงม้าต่อลิตร ที่สำคัญมันมีทอร์คที่สูงขึ้นมากถึง 460 นิวตันเมตร สามารถทำอัตราเร่ง 0-100 ใน 3.5 วินาที กับความเร็วสูงสุด 311 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ที่มาพร้อมกับการปรับปรุงช่วงล่างชุดใหญ่ โดยที่ GT3 RS 4.0 ก็เป็นรุ่นสุดท้ายที่มีเกียร์ธรรมดาและพวงมาลัยเพาเวอร์ไฮดรอลิกส์

จากยอดการผลิตเพียง 600 คัน โรงงานนำเสนอสีสำหรับ RS 4.0 มาสองสี คือสีดำและสีขาว แน่นอนว่าคันนี้เป็นสีขาว Carrera ที่ดูภายนอกแทบจะไม่ต่างจาก GT3 RS รุ่นปกติ แต่ถ้าสังเกตดี คุณจะเห็น  Winglet เล็กๆ สีเทาตรงมุมกันชนด้านหน้า ที่เป็นวิวัฒนาการมาจากรถแข่ง รวมถึงสปอยเลอร์หลังที่ปรับองศาความชันเพิ่มอีกนิดหน่อย ทั้งหมดทำเพื่อหวังผลในเรื่องของ ประโยชน์จากหลักอากาศพลศาสตร์ ที่จะรวบรวมเอาแรง Downforce มหาศาลมาช่วยกดรถให้นิ่งเมื่อวิ่งแหวกอากาศไปในความเร็วสูง ทางด้านของความสวยงามมีการเพิ่มเติมด้วยเส้นสายสีเทาที่ขลิบด้วยสีแดงรอบคันในจุดต่าง และตลอดไลน์การผลิตของ PORSCHE หลายสิบปีที่ผ่านมา ไม่เคยมีสติกเกอร์ PORSCHE ติดอยู่ที่สปอยเลอร์ท้าย และนี่เป็นครั้งแรกสำหรับรถโปรดักชั่นคาร์ที่มีคำว่า PORSCHE อยู่บนสปอยเลอร์หลัง

โดยทั่วไปรถ GT3 จะมีฝากระโปรงหน้าคาร์บอนไฟเบอร์ แต่สำหรับ GT3 RS 4.0 มีการใช้ ชิ้นส่วนด้านหน้าทั้งสามชิ้นไม่ว่าจะเป็นฝากระโปรงหน้า และซุ้มล้อซ้ายขวาเป็นคาร์บอนไฟเบอร์ทั้งหมด กระจกสามบานหลังถูกแทนที่ด้วยวัสดุโพลีเฟลก บรรดาวัสดุซับเสียงในรถก็ถูกลดทอนไปตามสมควร เบาะบักเก็ทซีททรงสวยน้ำหนักเบาก็เป็นอีกหนึ่งตัวการในการลดน้ำหนัก รวมถึงมือดึงประตูที่ใช้เป็นแถบผ้า อันเป็นสูตรวิชาตัวเบาที่สืบทอดมาตั้งแต่ RS รุ่นแรก การลดน้ำหนักในจุดต่าง จนเหลือเพียง 1360 กิโล ทำให้นี่เป็นรถที่ทรงพลังที่สุดคันหนึ่งเมื่อเทียบกับแรงม้าที่มันสร้างได้

ผมให้ความสำคัญกับการรันอินเครื่องยนต์ใหม่ตอนที่ได้มา พยายามเลี้ยงรอบไม่ให้สูงเกินไป ไม่เร่งแบบกระโชกโฮกฮาก แต่พอพ้นระยะรันอิน ผมก็สนุกกับมันได้เต็มที่ รถคันนี้ผมใช้บ่อยมาก ตอนนี้มันวิ่งไปเกินกว่า 13,000 กิโลเมตรแล้ว คือผมเป็นคนที่ชอบขับรถมากและผมคิดว่ารถมันต้องขับ ถ้าจอดโชว์เฉย มันก็คือโมเดล มันก็แล้วแต่วิธีคิดนะ ผมเคยตั้งใจว่าสักครั้งหนึ่งในชีวิตเราต้องมีโอกาสขับรถเกิน 300 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ก็ได้รถคันนี้ที่พาไปถึงเป้าหมายที่ตั้งไว้ มันเคยวิ่งไปถึง 305 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ซึ่งนั่นก็เกือบจะถึงความเร็วสูงสุดที่โรงงานเคลมไว้แล้ว โดยรวมยังชอบที่มันเป็นรถเกียร์แมนน่วล ที่ยังคงความดิบในการขับขี่อยู่เยอะมาก เข็มวัดรอบที่ตวัดขึ้นไวและสามารถลากรอบสูง ได้ มันให้ฟิลลิ่งที่ผมหาไม่ได้จากรถคันอื่น ที่สำคัญทอร์คมันเยอะมาก ทำให้การเร่งออกจากโค้งนั้นสามารถจัดการได้โดยง่าย

สุดท้ายแล้วผมก็ยังยืนยันว่า911 ทุกคันมันต่างกันชัดเจน ทุกคันมันมีคาแรกเตอร์ ทีนี้พอเราต้องการหาฟีลลิ่งของ มัน ทำให้เราได้รับรู้ถึงฟีลลิ่งของมันจริง มากกว่าที่เราอ่านในหนังสือ หรือตามสเป็ค เราได้ซึมซับ ได้เอนจอยฟีลลิ่งกับมัน ใน กลิ่นน้ำมัน เสียงเครื่องยนต์ การเปลี่ยนเกียร์  ตรงนี้คือเสน่ห์ของมันจริง ที่มันให้อารมณ์มากกว่าคุณวสิษฐย้ำชัดถึงเสน่ห์ที่ทำให้เขาต้องหลงรักเครื่องจักรที่ช่วยสร้างกิจกรรมแก้เบื่อให้เขาได้เป็นอย่างดี

ทุกรุ่นของ GT3 RS จนถึงรุ่นปัจจุบัน ยังคงรูปแบบการเป็นตัวซิ่งมาตั้งแต่กำเนิด เป็นรถถนนที่ถูกกฏหมาย แต่พร้อมที่จะลงแทร็คโดยผ่านเงื่อนไขตามข้อกำหนดในเรื่องความปลอดภัยผ่านฉลุย ซึ่งจริงอยู่ที่ 911 GT3 RS รุ่นใหม่อย่าง 991 จะมีเสน่ห์ที่สวยงามดึงดูด แต่มันไม่สามารถเร้าอารมณ์ด้วยคันเกียร์ที่คุณต้องจัดการมันด้วยตัวเองแบบแมนนวลยุคดั้งเดิม มันอาจฟังดูแปลก ถ้าจะบอกว่ารถใหม่เหล่านั้นถูกออกแบบมาดีเกินไป จนขาดประสบการณ์ขับขี่อันน่าตื่นเต้น อย่างที่คุณจะพบได้ใน GT3 RS 4.0 เป็นรุ่นสุดท้าย


บทความโดย กองบรรณาธิการ
นิตยสาร GTPORSCHE Magazine Thailand ฉบับที่ 44

Share

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *