การได้เห็น Porsche 911 SC แล่นผ่านนกกระทุงฝูงใหญ่ ลัดเลาะผ่านฝูงนกกระจอกเทศ อูฐ และยีราฟ ก่อนจะมาหยุดให้ม้าลายข้ามถนน มันเป็นความตื่นเต้นระคนกับความฟินราวกับได้ย้อนรอย Porsche 911 SC ในรายการ East African Safari Rally เมื่อปี 1978 ต้องขอบคุณคุณโหลย–เฉลิมพงษ์ ศรีโรจนันท์ ชายหนุ่มผู้หลงใหลความคลาสสิกที่ทำ Porsche SC คันนี้ให้กลับมาสวยสดงดงามอีกครั้ง
“ผมศึกษาเรื่อง Porsche มาประมาณสิบปีแล้ว แต่กว่าจะได้มี Porsche คันแรกเป็นของตัวเองก็เมื่อ 2-3 ปีมานี้ เพราะกว่าจะเจอ Porsche สภาพดีๆ ที่มีคนยอมขายนี่ไม่ง่ายเลยนะครับ” คุณหนุ่มเจ้าของรถ Porsche 911 SC สีดำ ปี 1979 คันนี้บอกกับเราถึงเส้นทางโคจรระหว่างเขากับ Porsche ก่อนมาเจอกัน
“คันนี้เป็นรถที่มาจากอังกฤษนานแล้ว ผมได้รับการชีเป้ามาจาก ช่างวัต Siam911 ว่าเป็นรถที่ประวัติดี ไม่มีอุบัติเหตุ ก็เลยติดต่อขอซื้อต่อจากเจ้าของเดิมมา”
แต่เนื่องจากตัวรถผ่านการเวลามาก เจ้าของเดิมหลายคนจึงนิยมเอา SC ไปเปลี่ยนโฉมให้เป็นรถ 964 บ้าง 930 บ้างตามแต่ความชอบ
“คันนี้เจ้าของเดิมเขาแต่งเป็น Turbo Look 930 แต่สียังเป็นสีเดิมติดรถ ตอนได้มาแรกๆ เราก็สองจิตสองใจว่าจะปรับไปเป็น Porsche 911 SC ออริจินัลที่บอดี้แคบๆ หรือจะทำแบบที่เราชอบดีมั้ย”
“แต่ในที่สุดก็ตัดสินใจ My car my way เราชอบโป่งข้างอ้วนๆ ทรงตัวถังแบบนี้ และPorsche มันก็มีจุดน่าสนใจอย่างหนึ่งในตลาดโลกคือเป็นรถที่สามารถปรับรูปแบบตามใจของเจ้าของได้โดยไม่ผิดระเบียบ จะแต่งแบบ Outlaws RWB หรือ Backdate ก็สามารถสะท้อนตัวเจ้าของได้”
แต่ถึงจะเดิมๆ แค่ไหน เมื่อมาอยู่ในมือคนรักความคลาสสิกแบบคุณโหลยแล้วก็ต้องบูรณะใหม่ให้เนี้ยบที่สุด ด้วยการทำสีใหม่หมด ทั้งภายนอก ภายใน รวมถึงการโอเวอร์ฮอลล์เครื่องใหม่ให้พร้อมใช้งาน
หลายคนอาจยังไม่ทราบว่า Porsche 911 SC นั้นใช้บล็อกเครื่องยนต์ทำจากอลูมิเนียมที่มีน้ำหนักเบา เครื่องยนต์ 6 สูบนอน ขนาด 3.0 ลิตรที่มาพร้อมระบบฉีดเชื้อเพลิง Bosch K-Jetronic ที่ถือว่าล้ำในสมัยนั้น ทำให้มันมีพละกำลังถึง 180 แรงม้า กับเกียร์ธรรมดา 5 สปีด ที่มีแรงบิดเพิ่มขึ้นทำให้ขับง่าย
“ในส่วนของตัวถัง ถึงจะมีโป่งหลังแบบ Turbo Look แต่ของเดิมเขาให้ช่างตัวถังในเมืองไทยทำขึ้นมา ซึ่งเชฟ มุมองศา ต่างๆ มันไม่เป๊ะ ผมก็เลยแก้ไขด้วยการสั่งชุดโป่งของใหม่จาก Porsche AG ที่เยอรมนีมาเลย”
กับระบบช่วงล่างคุณโหลยบอกว่ายังไม่ได้ทำอะไรมากเน้นของเดิมด้วยการเปลี่ยนโช้คใหม่ของ Bilstein กับล้อแม็กRUF ขอบ 1 7 นิ้ว และยาง Dunlop Direzza Sport Z1 Star
“ภายในผมอยากให้มันมีความย้อนยุค เลยเลือกใช้หัวเกียร์ทรงกลม กับพวงมาลัย MOMO PROTOTIPO สีดำทรงสปอร์ต” ซึ่งยิ่งเมื่อวางคู่กับถุงมือหนังของเจ้าของรถแล้วอดนึกถึงนักขับรถแข่งในอดีตเสียไม่ได้
เราปล่อยให้ Porsche SC คันนี้ใช้เวลาอ้อยอิ่งกับซาฟารีอย่างแช่มช้า ภาพของตัวรถที่ไหลเลื่อนไปตามองศาคดเคี้ยวของถนน กับสีดำของรถที่เป็นเสมือนกระจกเงาสะท้อนภาพป่าราวกับว่ามันกำลัง Return to the Wild แต่เมื่อเรากลับไปโรลลิ่งบนถนน กลับพบว่าประสิทธิภาพของเครื่องยนต์กับเกียร์ยังทำงานได้ดี เสียงเครื่องยนต์ที่คำรามผ่านท่อคู่สองข้าง กับความเร็วที่ยามแซงผ่านรถคันอื่น มันก็ทำให้รถรุ่นใหม่หลายๆ คันต้องมองชะม้ายตามอง
“ก็ใช้เวลาทำอยู่เกือบปี ก็รู้สึกดีที่ได้ขับรถที่เราชอบมาตั้งแต่เด็กบนถนนจริงๆ ทุกวันนี้ก็ยังต้องมีบางจุดที่ต้องบำรุงรักษา มีแอบรวนบ้าง เช่น ระบบแอร์ ระบบไฟฟ้าเล็กๆ น้อยๆ หรือจอดทิ้งไว้ไฟแบตเตอรี่หมดบ้างก็ต้องยกแบตมาเปลี่ยนใหม่ อีกอย่างเกียร์ธรรมดามันไม่ค่อยเหมาะกับกรุงเทพฯยุคนี้สักเท่าไหร่ วันไหนจะใช้คันนี้ก็จะออกแต่เช้ามืดเพื่อขับวอร์มเครื่องไปทำงาน”
ระหว่างที่จอดพักเครื่องท่ามกลางความร้อนระอุของเปลวแดด คุณโหลยก้าวลงไปเปิดฝากระโปรงท้าย เผยให้เห็นขุมพลังและใบพัดระบายอากาศสีส้มแสด ที่เขาลงทุนทำสีนี้ให้มันเด่นออกมาจากตัวเครื่องยนต์ เหมือนกันจะเน้นย้ำว่านี่คือ Porsche Air-cooled ระบบระบายอากาศของรถเมื่อ 40 ปีที่แล้วที่ยังทำหน้าที่ของมันได้ดีจวบจนปัจจุบัน ก็คงเหมือนกับที่เขาบอกว่า 911 กว่า 70% ยังคงแล่นอยู่บนถนน เสือก็คือเสือวันยังค่ำ ได้กลิ่นป่าเมื่อไหร่ก็คงต้อง Return to the Wild
Leave a Reply