เป่าเป้ MasterChef & Cayman 987 – Racing Yellow

Cayman 987 สีเหลือง Racing Yellow เป็นส่วนผสมที่กลมกล่อมให้กับสาวหน้าหวานดีกรีแชมป์ masterchef อย่าง เป่าเป้-เจสสิก้า หวัง

                สำหรับ Cayman ที่เปรียบเสมือนฝาแฝดของ Boxster แต่มีหลังคาแบบคูเป้เพื่อเสริมความแข็งแกร่งนั้นได้รับการออกแบบอย่างต่อเนื่อง หลังประสบความสำเร็จอย่างงดงามในรุ่นแรกอย่าง 986 แน่นอนว่า Cayman รุ่นที่สอง (987)  นั้นก็ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากแฟน PORSCHE เช่นเคยด้วยเส้นสายที่คมชัดดูร่วมสมัยซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงกลิ่นอายของเรือธงอย่าง 911 (997) มันทำให้ดูเหมือน 911 ที่ย่อส่วนลงมาเพื่อความกะทัดรัด และมีบุคลิกที่คล่องแคล่ว นั่นเป็นสิ่งที่ตอบโจทย์ของสาวน้อยหน้าหวานอย่าง เป่าเป้-เจสสิก้า หวัง ที่ล่าสุดเธอคือผู้ชนะการแข่งขันในรายการทำอาหารที่มีผู้ติดตามทั่วประเทศอย่าง Masterchef ใน Season All Star

ช่วงเช้าตรู่ของวัน ณ คาเฟ่เล็ก ๆ ย่านชานเมืองที่ตกแต่งสไตล์กลาสเฮ้าส์ในสวน เป็นจุดนัดพบกับสาวหน้าหวานอารมณ์ดีที่มีเสน่ห์ปลายจวักติดตัว ซึ่งวันนี้ไม่ได้มาในภาพจำของชุดเชฟสีขาวที่ดูสง่า แต่มาในชุดเดรสแฟชั่นสีเหลืองที่ดูเป็นกันเองกับ Cayman คู่ใจของเธอ เราได้เริ่มทำความรู้จักกับตัวตนของเธอถึงจุดเริ่มต้นในการทำอาหาร “จุดเริ่มต้นในความชอบทำอาหารของเป้ มีเหตุผลที่ง่ายมากเลย ก็คือเป้มองว่า การทำอาหาร ทำขนม มันเป็นสิ่งที่ทำให้ผู้หญิงดูสวย ดูมีความสามารถ ก็เลยไปลงคอร์สเรียนทำขนม ทำเบเกอรี่ และก็อาหารฝรั่งเศส นั่นคือจุดเริ่มต้นในการเริ่มลงมือศึกษาการทำอาหารอย่างจริงจัง แต่พอเข้าไปทุกอย่างมันไม่ได้สวยงามเหมือนอย่างที่คิด มันมีแต่รอยบาดแผล มีรอยไหม้ ยกมือขึ้นมาสิบนิ้วนี่มีพลาสเตอร์พันไปแล้วเก้านิ้ว ก็เลยรู้สึกว่ามันลำบากมากเลย มันไม่ได้ดูเป็นผู้หญิงสวยอย่างที่เราคิดเลย” สาวไต้หวันเล่าถึงจุดเริ่มต้นของการทำงานอาหารผ่านรอยยิ้มที่น่ารักสมชื่อ เป่าเป้ ที่เป็นภาษาไต้หวันอันแปลว่า ‘ที่รัก’ ที่ใครเห็นก็ต้องหลงรักจริง ๆ 

“ด้วยความที่เราไม่เคยเข้าครัวมาก่อนเลย พอเรียนทำอาหารก็เลยรุ้สึกทุกอย่างมันแปลกใหม่มาก ถึงแม้อยู่ในครัวมันจะลำบาก และเต็มไปด้วยบาดแผล แต่เราก็ยังยอมเลือกที่จะอดทนผ่านมันมาได้ ทำให้รู้สึกว่าเรามีใจรักและชอบในสิ่งนี้จริง ๆ ไม่งั้นเราจะผ่านมาถึงจุดนี้ไม่ได้ ทำให้เราหันมาจริงจังกับอาชีพนี้ และเราน่าจะเอาความชอบนี้มาทำเป็นอาชีพได้  อีกอย่างคือคุณพ่อและคุณแม่ก็ทุ่มเทและก็สนับสนุนอย่างมาก เลยรู้สึกว่าเราจะตอบแทนท่านด้วยความจริงจัง”

จากคนที่ชื่นชอบในการทำอาหาร และความมุ่งมั่นได้พลิกโฉมให้เธอได้เข้าร่วมแข่งขันและเป็นผู้ชนะในรายการทำอาหารชื่อดัง Season นี้ “การเป็นแชมป์ Masterchef มันไม่ได้ยืนยันว่าคุณจะเก่งแค่ไหน แต่มันคือการที่คุณยอมพัฒนา และยอมพยายามอดทนฝ่าฟันอุปสรรคต่างๆ ต้องมีความคิดสร้างสรรค์ ระหว่างทางคือทำการบ้านเยอะมาก อย่างก่อนหน้านี้ แข่ง Season3 ก็ไม่ได้ไปถึงจุดที่เป้หวังไว้ และการกลับมาครั้งนี้เป้คิดว่ามันเป็นโอกาสที่เป้จะได้ทำอย่างเต็มที่ เลยทำการบ้านเยอะมาก และฝึกซ้อมตลอดเวลา เพราะฉะนั้นการที่เป้เป็นผู้ชนะเนี่ยเป้รู้สึกว่า มันเป็นตัวอย่างที่ดีในการที่จะบอกทุกคนว่าคุณไม่จำเป็นต้องเป็นคนเก่ง แต่คุณต้องเป็นคนที่มีความพยายามและคุณจะต้องรักในสิ่งที่คุณทำ”

 “เวลาที่เราทำอาหารเสร็จก็จะรู้สึกถึงความภูมิใจ ซึ่งมันเป็นสิ่งที่ไม่สามารถหาซื้อได้ และเราสามารถรับรู้ได้ถึงการทำให้คนรอบข้างมีความสุขกับสิ่งที่เราตั้งใจทำให้ด้วยมือของเราเอง มันดูมีคุณค่ามากกว่าการเอาเงินไปซื้อของขวัญ อันนี้เราต้องตั้งใจไปซื้อวัตถุดิบที่ดี ผ่านกรรมวิธีที่ใส่ใจในทุกขั้นตอนที่เราตั้งใจทำมาให้เขา มันคือความภาคภูมิใจที่ทำให้คนที่ได้รับมีความสุข และมันก็ทำให้เรามีความสุขด้วย” เป่าเป้เล่าให้ฟังผ่านแววที่แสดงให้เห็นถึงความสุขที่แท้จริง โดยปัจจุบันนอกจากธุรกิจครอบครัวแล้ว เธอมักใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่ในครัว และความวุ่นวายในครัวที่เคยถูกซ่อนให้ลับตาถูกนำเสนอเป็นศิลปะในรูปแบบ Cheftable ของตัวเองอย่างจริงจัง โดยมักจะหาเวลาว่างจัดเป็นอีเว้นท์เพื่อส่งต่อความสุขให้กับนักชิมทั้งหลายได้มาลิ้มลอง รวมถึงการทำเบเกอรี่ออนไลน์ โดยเชฟสาวดีกรีแชมป์ Masterchef ได้เผยเคล็ดลับในพัฒนาตัวเองด้วยการค้นหาแรงบันดาลใจในการคิดรังสรรค์เมนูใหม่ ๆ อยู่ตลอด

“สำหรับเป้จะใช้ชีวิตอย่างมีสีสัน นอกจากการดูคลิปทำอาหาร ก็ดูคลิปอื่น ๆ ที่ไม่เกี่ยวข้องกับอาหารด้วย เราสามารถที่จะใช้ไลฟ์สไตล์อย่างที่เราอยากใช้ ไม่จำเป็นต้องไปทานแต่ร้านอาหาร สนใจแต่เรื่องอาหาร การที่เราออกไปข้างนอก ไปเดินห้างฯ พาน้องหมาไปเดินเล่น มันก็สามารถที่จะเป็นแรงบันดาลใจในการให้เราสร้างสิ่งใหม่ ๆ ได้เสมอ มันไม่จำเป็นต้องเกี่ยวกับอาหาร โดยเฉพาะเป้เป็นคนชอบขับรถ การขับรถมันสามารถช่วยให้เราไปได้ในหลายๆ ที่ ทำให้เราได้เห็นมุมมองหลาย ๆ อย่างของในแต่ละสถานที่ ออกไปเที่ยวบ้าง นอกเมืองบ้าง ก็ช่วยสร้างแรงบันดาลใจในการทำอาหาร มันให้เราเห็นถึงวิถีชีวิตของคน ของการใช้ชีวิตต่างๆ ช่วยให้เราเกิดไอเดียใหม่ๆ”

ความใส่ใจในการเลือกวัตถุดิบชั้นยอด ส่งผลลัพธ์ถึงการพิถีพิถันในการเลือกรถในฝันที่จะพาเธอไปสร้างแรงบันดาลใจใหม่ ๆ  “ส่วนตัวแล้วเป็นคนชอบขับรถ ดังนั้นวิธีการเลือกรถคู่ใจของเป้ ก่อนอื่นเลยคือมันต้องดูสวย ดูหรู และมันต้องดูเท่ห์ คือมันต้องมีความพอดี ไม่หวานเกินไป ไม่เท่เกินไป ไม่ได้ดูใกล้ชิดไม่ได้ แต่ก็ต้องดูหรูหรา จริง ๆ รถคู่ใจของเป้คือมีบรรทัดฐาน มีคอนดิชั่น ที่ค่อนข้างเยอะ”

                “อย่าง PORSCHE เป็นรถในฝันตั้งแต่เด็ก ๆ ที่คุณพ่อพูดถึงเสมอ เราเลยซึมซับว่าสักวันมันต้องเป็นรถเรา จนกระทั่งมี Cayman ที่ขับเป็นประจำ ก่อนอื่นเลยคือชอบรูปร่างของมันมันไม่ได้ใหญ่มาก มันไม่ได้เล็กมาก มันดูคอมแพค มันดูเป็นรถกะทัดรัด เป็นรถที่ขับในมืองก็เหมาะและใช้งานในชีวิตประจำวันได้ ที่สำคัญเครื่องยนต์ Mid-Engine ของ Cayman ทำให้บาลานซ์ดี ข้างหน้าใส่ของได้ ข้างหลังก็ใส่ของได้ สำหรับคนที่ชอบชอปปิ้งแบบเป้มันก็ตอบโจทย์มากๆ คือเราไม่จำเป็นต้องขับรถคันใหญ่ไปห้าง แต่เราขับรถที่เหมาะสมกับเราแล้วยังใส่ของในปริมาณที่ต้องการได้”

                เธอกำลังพูดถึงที่มาที่ไปและข้อดีของ Cayman สีเหลือง Racing Yellow ที่กำลังสะท้อนแสงสีทองยามเช้าท่ามกลางทุ่งหญ้า ก่อนที่จะพาเราไปเก็บภาพโรลลิ่งกันบนถนนรอบเมืองที่อยู่ไม่ไกลกันนัก ซึ่งระหว่างทางเสียงจากท่อไอเสียของขุมพลัง 2.7 ลิตร 240 แรงม้า ที่ดังอย่างต่อเนื่องพร้อมกับรถที่พุ่งทะยานขึ้นไปอย่างรวดเร็วในช่วงที่การจราจรเป็นใจ เผยให้เห็นอีกมุมหนึ่งของสาวน้อยเท้าขวาหนักคนนี้เมื่ออยู่หลังพวงมาลัย ทำให้เราลืมภาพของเชฟสาวบุคลิกเป็นกันเองที่กำลังนวดแป้งในครัวที่สวยหรูไปครู่หนึ่ง

“เป้รู้สึกว่าเสน่ห์ของ PORSCHE คือความที่รูปร่างสวยงาม ขับง่าย ไม่จำเป็นว่า มันสวยแล้วต้องจอดไว้โชว์อย่างเดียว มันต้องขับได้ในชีวิตประจำวัน มันคือสปอร์ตคาร์ที่จับต้องได้ และควอลิตี้ที่ได้รับมันเหนือกว่ามูลค่าของมัน ซึ่งถ้าเปรียบเป็นเมนูพิเศษก็ชวนให้นึกถึงพาสต้าเส้นสด ซึ่งดูเป็นจานธรรมดาที่ทุกคนรู้จัก แต่กว่าจะได้มาเป็น Cayman แบบนี้มันมีดีเทลที่รายละเอียดค่อนข้างเยอะ ก็เหมือนพาสต้าเส้นสด ที่ต้องใช้มือนวดเส้นอย่างพิถีพิถัน ไม่เหมือนพาสต้าทั่วไป เนื้อสัมผัสต่าง ๆ มันก็ไม่เหมือนกัน”

“ตอนที่ตัดสินใจซื้อรถ PORSCHE ก็ไม่ได้นึกถึงที่อื่นเลยนอกจาก AAS Auto Service เพราะมั่นใจในความเป็น Authorize Dealer ที่สามารถดูแลรถของเป้ได้ตลอด และได้รับความประทับใจที่พิเศษในการดูแลทั้งก่อนและหลังการขาย ที่เขาเทคแคร์อย่างสม่ำเสมอ โดยเราไม่ต้องเป็นห่วงหรือกังวลเกี่ยวกับการดูแลรถเลย ที่ AAS มีเจ้าหน้าที่คอยดูแลเราและรถเราตลอดเวลา รวมถึงมีการจัดกิจกรรมที่เปิดประสบการณ์ใหม่ ๆ ให้กับเราตลอด มีครั้งหนึ่งเป้เคยไปร่วมงาน PORSCHE Driving Experience ของ AAS Auto Service ซึ่งตอนแรกที่คิดว่าเขาจะแค่ให้มาชม มานั่งลอง ไม่ได้ขับจริง ปรากฏว่าเขาจัด test station ที่หลากหลาย ให้เราได้ทดลองขับรถ PORSCHE ในทุกรุ่นที่เขามี ซึ่งเราเป็นคนที่ชอบขับรถอยู่แล้ว ก็รู้สึกประทับใจมาก อีกทั้งยังได้เรียนรู้ทักษะในการควบคุมรถในสถานการณ์ต่าง ๆ อีกด้วย”

กับคำถามสุดท้ายก่อนที่จะจากกัน เราอดถามคุณเป่าเป้ไม่ได้ว่ารถ PORSCHE ในอนาคตของเธอนั้นจะเป็นรุ่นอะไร “เนื่องจากมี มีสปอร์ตอย่าง Cayman และ SUV อย่าง Cayenne แล้ว ก็อยากได้ Panamera ที่เปลี่ยนฟีลในการขับเป็นอีกเลเวลนึง ที่ถึงแม้จะดูใหญ่ นั่งสบายแต่เป้เชื่อว่ามันจะยังคงความเป็นสปอร์ตในเอกลักษณ์ของ PORSCHE”  

เรื่องและภาพโดย กองบรรณาธิการ นิตยสาร GTPORSCHE Thailand

Share

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *